- Sport
เก็บตก 19 ประเด็น หลังเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเชือด วูล์ฟส์ ส่งท้ายปี 2019
By Sweeper Keeper • on Dec 30, 2019 • 1,250 Views
แม้จะเป็นชัยชนะอีกหนึ่งนัดที่ได้มาแบบ หืดจับ แต่การเก็บสามแต้มในเกมนัดสุดท้ายของปีที่แอนฟิลด์ได้สำเร็จ ก็น่าจะทำให้เหล่าสาวกหงส์แดงทั้งหลายได้ฉลองปีใหม่กันแบบมีความสุข…
จริงอยู่ครับว่า ลิเวอร์พูล มีโชคในเกมนัดนี้ที่ได้ประโยชน์จาก วีเออาร์ ไปเต็มๆ เพราะนอกจากจะได้ประตูจากลูกที่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกแฮนด์บอลไปแล้ว พวกเขายังไม่เสียประตูตีเสมอให้คู่แข่งเพราะ วีเออาร์ จับได้ว่านักเตะ วูล์ฟส์ จั๊กแร้ล้ำหน้า!!! อีกต่างหาก
แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง เกมนัดนี้เป็นอีกเกมที่พิสูจน์ให้เห็นว่าความพิเศษอย่างหนึ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล มายืนอยู่ในตำแหน่ง จ่าฝูง อย่างสง่าผ่าเผยนั่นก็คือ การที่พวกเขามักจะหาทางเอาชนะคู่ต่อสู้จนได้ทุกครั้งแม้จะเป็นวันที่โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีก็ตาม
ในภาพรวม วูล์ฟส์ วางแท็คติกมาสู้ได้ดีมากนะครับ เล่นเอา ลิเวอร์พูล แทบหาโอกาสเจาะเข้าไปทำประตูแบบจะๆ ไม่ได้เลย แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นครับว่า สุดท้ายแล้ว ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ได้ประตูขึ้นนำช่วงท้ายครึ่งแรก ซึ่งถ้าพูดอย่างเป็นกลางแล้วลูกนี้ชัดเจนว่าไม่แฮนด์บอล เพราะบอลโดนไหล่ ลัลลน่า กลายเป็นแอสซิสต์ให้ มาเน่ ยิงเข้าประตูไป
ส่วนประตูที่ วูล์ฟส์ ทำได้แล้วถูกจับเป็นลูกล้ำหน้า บอกตรงๆ ครับว่า น่าเห็นใจจริงๆ แต่ ลิเวอร์พูล ก็เคยถูกริบประตูคืนจากจังหวะแบบนี้มาแล้วในเกมที่ ฟีร์มิโน่ ยิงประตูในเกมบุกไปเยือนแอสตัน วิลล่า แล้วถูก วีเออาร์ จับว่าล้ำหน้าตรงหว่างแขนเช่นกัน
ทั้งหลายทั้งปวง สามแต้มที่ได้มาทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล เก็บไปแล้ว 55 แต้มจาก 19 นัด นำทีมอันดับสอง เลสเตอร์ 13 คะแนน และนำ แมนฯ ซิตี้ อันดับสาม 14 คะแนน แถมยังมีเกมอยู่ในมืออีกหนึ่งนัด
นอกจากนั้นแล้ว ชัยชนะในเกมนี้ยังทำให้ ลิเวอร์พูล สร้างสถิติใหม่ๆ ขึ้นมาอีกมากมายในรอบปี 2019 ที่ผ่านมา
และต่อไปนี้ คือ 19 ประเด็นเก็บตก หลังเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเชือด วูล์ฟส์ ส่งท้ายปี 2019 ที่เรารวบรวมมาให้อ่านกันแบบ เต็มอิ่ม จุใจ เช่นเคย
1. หลังจากเปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟส์ ไปได้ 1-0 ทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครเลยในทุกรายการยามที่ลงเตะใน แอนฟิลด์ ตลอดปี 2019
2. ผลงานของ ลิเวอร์พูล เฉพาะในพรีเมียร์ ลีก ตลอดปี 2019 เตะ 37 เกม ชนะ 31 เสมอ 5 แพ้ 1 เก็บไป 98 จาก 111 คะแนนเต็ม ได้ 88 ประตู เสีย 28 ประตู และเก็บได้ 12 คลีทชีท
3. หากแยกผลงานของ ลิเวอร์พูล ตลอดปี 2019 เฉพาะในพรีเมียร์ ลีกออกมาให้เห็นในแต่ละเดือน จะเป็นดังนี้
– ม.ค. L (บุกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2 คือเกมเดียวที่แพ้ในปีที่ผ่าน) WWD
– ก.พ. DWDW
– มี.ค. DWWW
– เม.ย. WWWW
– พ.ค. WW
– ส.ค. WWWW
– ก.ย. WWW
– ต.ค. W D (บุกไปเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเกมเดียวในฤดูกาลนี้ที่ไม่สามารถเก็บสามแต้มได้) W
– พ.ย. WWWW
– ธ.ค. WWWWW
4. โดย 98 แต้ม จาก 111 คะแนนเต็ม ที่ทำได้จากการลงเตะพรีเมียร์ ลีกไป 37 นัดตลอดปี 2019 ส่งให้ ลิเวอร์พูล ทำแต้มเฉลี่ย 2.65 ต่อเกม ซึ่งถือเป็นแต้มเฉลี่ยต่อเกมในการลงเตะหนึ่งปีที่มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากที่ เชลซี เคยทำไว้ 2.66 ต่อเกม เมื่อปี 2005
5. ไม่เพียงเท่นนั้น เกม เชือด วูล์ฟส์ ในบ้านเกมนี้ ยังทำให้ ลิเวอร์พูล ยืดสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ ลีกที่แอนฟิลด์ เป็นนัดที่ 50 ติดต่อกัน (ชนะ 40 เสมอ 10 แพ้ 0)
6. นอกจากนั้น ลิเวอร์พูล ยังทำสถิติชนะรวดเกมพรีเมียร์ ลีกเป็นนัดที่ 17 ในแอนฟิลด์ โดยที่ผ่านมามีแค่ แมนฯ ยูไนเต็ด (19 เกม เมื่อปี 2011) และ แมนฯ ซิตี้ (20 เกม เมื่อปี 2012) ที่ชนะเกมในบ้านติดต่อกันได้มากกว่า
7. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงสนามทุกรายการให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 350 ในเกมที่พบกับ วูล์ฟส์ ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ ลงสนามทุกรายการให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 150 ส่วน เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ลงสนามทุกรายการให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 100
8. หากนับเฉพาะแค่พรีเมียร์ ลีก เกมที่พบกับ วูล์ฟส์ คือการลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 308 ของกัปตันเฮนโด้ โดยเขาคือนักเตะที่ลงเตะในพรีเมียร์ ลีกมากที่สุดในรอบหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
9. ประตูชัยในเกมนี้คือลูกที่ 10 ที่ ซาดิโอ มาเน่ ยิงได้ในพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งนั่นทำให้ มาเน่ กลายเป็นนักเตะที่สามารถยิงประตูได้ 10 ลูกหรือมากกว่านั้น เป็นฤดูกาลที่ 6 ติดต่อกัน ไล่ตั้งแต่ 2014-15 ยิงไป 10 ลูก / 2015-16 ยิงไป 11 ลูก / 2016-17 ยิงไป 13 ลูก / 2017-18 ยิงไป 10 ลูก/ 2018-19 ยิงไป 22 ลูก / 2019-20 ยิงไปแล้ว 10 ลูก จาก 19 นัด
10. นอกจากนี้ มาเน่ ยังกลายเป็นนักเตะคนที่สองที่มีส่วนโดยตรงกับการทำประตูให้กับทีมได้ถึง 30 ลูกเฉพาะในพรีเมียร์ ลีก (24 ประตู 6 แอสซิสต์) โดยเป็นรองเพียง เจมี่ วาร์ดี้ ที่มีส่วนร่วมโดยตรงในการประตูไป 34 ลูก
11. เท่านั้นยังไม่พอ ปี 2019 ที่ผ่านมา มาเน่ คือนักเตะที่ยิงประตูได้ในเกมพรีเมียร์ ลีกที่เตะในบ้านได้มากที่สุด โดยเขายิงไปแล้ว 18 ลูก จากการลงเตะที่แอนฟิลด์ในปีนี้ไปทั้งหมด 19 เกม (ซาล่าห์, วาร์ดี้ และ อเกวโร่ ตามมาอันดับสองที่ 14 ลูกเท่ากัน)
12. เฉพาะฤดูกาลนี้ มาเน่ ยิงไปแล้ว 13 ประตู 8 แอสซิสต์ ในทุกรายการ โดย 6 เกมล่าสุด เขาทำไป 1 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์
13. แอสซิสต์ของ อดัม ลัลลน่า ในเกมนี้คือแอสซิสต์แรกในรอบ 2 ปีกับอีก 363 วันที่เขาทำให้ ลิเวอร์พูล ในเกมพรีเมียร์ ลีก โดยแอสซิสต์สุดท้ายที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในเกมพบกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016
14. เกมที่พบกับ วูล์ฟส์ คือเกมที่ 6 ใน 7 เกมล่าสุด ที่ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บคลีทชีทได้สำเร็จ
15. สำหรับ 6 เกมดังกล่าวที่ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บคลีทชีทได้คือเกมที่พบกับ บอร์นมัธ, ซัลซ์บวร์ก (แชมเปี้ยนส์ ลีก), วัตฟอร์ด, ฟลาเมงโก้ (สโมสรโลก), เลสเตอร์ และ วูล์ฟส์
16. โดย 4 จาก 6 นัดที่ ลิเวอร์พูล ไม่เสียประตูให้กับคู่แข่ง คือเกมที่ โจ โกเมซ ลงสนามเป็นตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์คู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
17. อลิสซอน เบ็คเกอร์ ลงเฝ้าเสาให้ ลิเวอร์พูล เฉพาะในเกมพรีเมียร์ ลีกไปแล้วทั้งหมด 48 นัด ช่วยให้ทีมเก็บคลีทชีทได้ 24 นัด และเสียประตูไปแค่ 27 ลูก
18. เกมที่บุกมาแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ถือเป็นการแพ้เกมนอกบ้านเกมแรกใน 8 นัดล่าสุดของ วูล์ฟส์ (ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 1) รวมถึงเกมนี้ยังเป็นเกมนอกบ้านเกมแรกที่พวกเขายิงประตูไม่ได้นับตั้งแต่ที่พวกเขาบุกไปเสมอกับ เลสเตอร์ 0-0 ในเกมเปิดฤดูกาล
19. นอกจากนี้ วูล์ฟส์ ยังแพ้เป็นนัดที่ 6 จากการลงเตะกับ ลิเวอร์พูล ในเกมพรีเมียร์ ลีก โดยพวกเขายิงได้แค่ประตูเดียว และเสียไปถึง 13 ประตู
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง