- Tech
ส่องมือถือแบรนด์ต่าง ๆ ว่าออกตัวไหนมาแข่งขันในตลาดเครือข่าย 5G
By choerryblossom • on Sep 30, 2021 • 788 Views
ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ยุค 5G แล้วซึ่งส่งผลให้แบรนด์สมาร์ทโฟนทั้งหลายเริ่มปรับตัวด้วยการพัฒนาชิพรับสัญญาณในเครื่องให้สามารถรับสัญญาณ 5G ได้ วันนี้ BSITE เลยพาทุกท่านมาส่องรุ่นเรือธงของแบรนด์ที่เป็น Top 5 ในการคว้าส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนสูงสุดในไทย ว่าแต่ละแบรนด์ส่งตัวท็อปรุ่นไหนมาแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน 5G กันบ้าง และแต่ละรุ่นที่เป็นเรือธงนั้นมีฟีเจอร์น้ำดีที่หลายคนต้องร้องว้าวให้กับสมาร์ทโฟน 5G จนคุณห้ามใจไม่ไหวต้องซื้อมาใช้
Apple
พึ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อช่วงวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมากับ iPhone13 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple แบรนด์มือถือที่คนไทยทั้งหลายเลือกเป็นอันดับต้น ๆ ในการซื้อมาใช้งาน โดยรุ่นเรือธงของ iPhone13 ก็คือรุ่น iPhone13 Pro ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ของรุ่นว่า “iPhone Pro โปรสมชื่อ” ด้วยระบบกล้องที่ทรงพลัง, จอภาพตอบสนองได้ไว, ระบบปฏิบัติการที่มีชิพ A15 ที่ทาง Apple เคลมว่า “เร็วที่สุดในโลก” พร้อมกับความทนทานทั้งตัวเครื่องจากแสตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือแพทย์และหน้าจอวัสดุ Ceramic shield รวมถึงระบบกันน้ำที่ระดับ IP68 ทำให้สาวกมั่นใจในตัวเครื่องว่าแข็งแรงทนทานแน่นอน นอกจากนี้ยังรวมถึงการเพิ่มความจุแบตเตอรี่มากกว่ารุ่น Iphone12 Pro ที่เป็นเรือธงของ Apple ในปีที่แล้ว โดย iPhone 13 Pro ที่เปิดตัวออกขายในปีนี้มี 2 รุ่นให้เลือกก็คือรุ่น Pro ที่หน้าจอกว้าง 6.1 นิ้ว และรุ่น Pro Max ที่หน้าจอกว้างถึง 6.7 นิ้ว แถมยังมาพร้อม 4 สีซึ่ง 1 ในนั้นมีสีใหม่ด้วยก็คือ “เซียร์ร่าบลู” และอีกสามสีที่เหลือคือ “เงิน, ทอง และกราไฟต์” อีกเหตุผลที่ iPhone 13 เป็นสมาร์ทโฟนที่ทุกกลุ่มอาชีพจับตามองเพราะความจำภายในตัวเครื่องมีตั้งแต่ 128 GB จนถึง 1TB เรียกได้ว่าใช้กันยาว ๆ หลายปี ไม่กลัวเครื่องค้างได้เลย โดยราคาเปิดตัว iPhone Pro ทั้งรุ่น Pro ธรรมดาเริ่มต้นประมาณ 38,900 บาทและรุ่น Pro Max เริ่มต้นที่ 42,900 บาท สามารถดูรายละเอียดสมาร์ทโฟน iPhone Pro ได้ที่ Apple.com/th/iPhone13Pro
Samsung
ทางด้านสมาร์ทโฟนจากแดนโสมขาวก็ไม่น้อยหน้า ปล่อยมัดเด็ดที่ทำให้ทุกคนทึ่งไปกับนวัตกรรมจอทัชสกรีนพับได้รุ่นใหม่ที่มาพร้อมตัวรับสัญญาณ 5G อย่าง “Samsung Galaxy Z Fold3 5G และ Galaxy Z Filp3 5G” โดยรุ่น Galaxy Z Filp3 5G ทาง Samsung ได้โฆษณาว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่พกพาง่ายแม้ใส่ในกระเป๋ากางเกงสกินนี่เพราะตัวเครื่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา นอกจากนี้ตัวเครื่องยังสามารถเอาออกมากางเต็มจอหรือพับตามองศาที่ผู้ใช้ต้องการ (โหมดตั้งหน้าจอรองรับมุมระหว่าง 75° ถึง 115° ทางแบรนด์แนะนำว่า ถ้าต้องการตั้งหน้าจอให้ตั้งไว้ในพื้นที่ที่ไม่สั่นสะเทือน) นอกจากนี้การพับได้ของหน้าจอยังทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายเซลฟีได้แบบเห็นภาพตัวเองก่อนถ่ายเหมือนใช้กล้องแบบมิลเลอร์เลส มาพร้อมกับซีพียูแบบ Octa-Core และใช้หน้าจอแบบคมชัดจัดเต็มด้วย Super AMOLED รวมถึงแบตเตอรี่จำนวน 3,300 mAh ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทั้งวัน โดยรุ่น Galaxy Z Filp3 5G มี 2 รุ่นความจำคือ รุ่น 128GB/8GB ราคา 34,900 บาท และรุ่น 256GB/8GB ราคา 36,900 บาท ทั้งยังมีสีให้เลือกถึง 4 สีได้แก่ Cream, Phantom Black, Green, Lavender และสำหรับลูกค้าที่สั่งในเว็บ samsung.com จะสามารถเลือกสีพิเศษเช่นสี Gray, White หรือ Pink ได้
ส่วนรุ่น Samsung Galaxy Z Fold3 5G ออกแบบมาด้วยดีไซน์จอกว้างที่สามารถพับหน้าจอและตั้งได้ด้วย Flex Mode นอกจากนี้หน้าจอยังใช้เทคนิค Infinity Flex Display ที่ทำให้รูกล้องหายขณะที่ผู้ใช้กำลังรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมอยู่ นอกจากจอที่สุดล้ำยังมีเสียงที่สมจริงด้วยระบบ Dolby Atmos แบบลำโพงสเตอริโออีกด้วย ทาง Samsung ได้เพิ่มฟังก์ชันใหม่ที่สามารถแบ่งหน้าจอให้สามารถใช้ได้ 3 แอปพลิเคชันพร้อมกันและรองรับปากกามหัศจรรย์ของ Samsung อย่าง S PEN FOLD EDITION ส่วนเรื่องความทนทาน รุ่นนี้ทำจากวัสดุ Armor Aluminium ที่แข็งแรงแต่น้ำหนักเบา สามารถพับกางหน้าจอได้อย่างไร้กังวลและห่อหุ้มด้วย Corning Gorilla Glass Victus ที่ทนต่อการตกหล่นจากที่สูง 2 เมตร พร้อมกับกันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX8 นอกจากนี้ยังมี Samsung Care+ ที่ผู้ใช้สามารถลงทะเบียนเพื่อประกันสำหรับอุบัติเหตุได้ สำหรับรุ่น Galaxy Z Fold3 5G มี 2 รุ่นความจุได้แก่ 256 GB ราคา 57,900 บาท และ 512GB ราคา 61,900 บาท สีของตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สีดังนี้ Phantom Black, Phantom Green และ Phantom Silver ส่วนใครที่รอสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงตระกูล S จากข่าวลือหลายสำนักให้ความเห็นตรงกันว่า “Samsung น่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S22 ทั้ง 3 รุ่น ประมาณช่วงเดือนมกราคม ปีค.ศ. 2022 พร้อมแท็บเล็ตรุ่นใหม่” ซึ่งคงไม่นานเกินรอที่เราจะได้เห็นสมาร์ทโฟนเรือธงใหม่พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำที่ทาง Samsung ใส่เข้ามาให้สาวกถูกใจแน่นอนค่ะ
หากคุณสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ samsung.com/galaxy-z-fold3-5g และ samsung.com/galaxy-z-flip3-5g/
Xiaomi
แบรนด์สินค้าชื่อดังจากแดนมังกรใหญ่ที่ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ในชีวิตประจำวันหลากหลายชิ้นออกมาสู่ตลาดโลก สิ่งหนึ่งที่ทาง Xiaomi พัฒนามาตลอดเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดก็คือสมาร์ทโฟน โดยสมาร์ทโฟนของ Xiaomi ที่ปล่อยออกมานั้นมีหลากหลายรุ่นและราคาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดตามที่ต้องการ ซึ่งรุ่นเรือธงของ Xiaomi ที่เปิดตัวไปไม่นาน ได้แก่รุ่น Mi11T Pro ที่มาพร้อมชิพรับสัญญาณ 5G และมีคอนเซปต์ว่า Cinemagic ถ่ายทำเสมือนผู้กำกับจากฟังก์ชันกล้องสตูดิโอ 3 ตัวที่มีความคมชัดมากสุดถึง 108MP, กล้องหน้าเซลฟีถ่ายสวยชัดจัดเต็ม 16MP, ลำโพงแบบ SOUND BY Harman Kardon ที่รองรับ Dolby Atmos®, หน้าจอแสดงผลได้อย่างคมชัดด้วย 6.67″ AMOLED DotDisplay และซีพียูประมวลผลแบบ Qualcomm® Snapdragon™ 888 มาพร้อมกับตัวเครื่องกระจก ดีไซน์โค้งมนจับง่ายไม่หลุดมือ แถมยังมีระบบชาร์จ120W Xiaomi HyperCharge ที่ทำให้แบตเตอรี่เต็มได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งรุ่น Mi 11T และรุ่น Mi11T Pro นี้เปิดตัวมาพร้อมกับตัวเครื่อง 3 สีได้แก่ Celestial Blue, Moonlight White และ Meteorite Gray สำหรับรุ่น Mi 11T Pro เปิดตัวจำหน่าย 3 รุ่นความทรงจำได้แก่ RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 16,990 บาท, RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 18,990 บาท, RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 20,990 บาท ซึ่งทั้ง 2 รุ่นวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ สามารถดูรายระเอียดและรุ่นอื่น ๆ ได้ที่ mi.com/th/xiaomi-11t-pro
OPPO
สมาร์ทโฟนที่ใครหลายคนยกให้เป็นแบรนด์ที่ถ่ายเซลฟีสวยอีกแบรนด์หนึ่ง ซึ่งครองตลาดสมาร์ทโฟนในไทยมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันทาง OPPO ก็มีการเพิ่มฟังก์ชันอื่น ๆ มากกว่าการถ่ายภาพเพื่อเอาใจผู้ใช้และสาวกแบรนด์ OPPO มากยิ่งขึ้นด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงประจำปี 2564 ก็คือ OPPO Find X3 Pro ซึ่งวางจำหน่ายไปช่วงเดือนมีนาคม 2564 โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ Awaken Colour ที่เก็บรายละเอียดสีครบทุกสเปกตรัมพร้อมกับมีระบบ AI ที่ปรับสีของภาพให้ดูสมดุลและคงบรรยากาศของรูปนั้นไว้ นอกจากนี้ยังมีระบบประมวลผลด้วยชิพ Qualcomm® Snapdragon™ 888 และสามารถกันน้ำและฝุ่นได้มากถึง IP684 พร้อมกับระบบชาร์จไวที่ใช้เวลาเพียง 10 นาทีแต่ชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 40% ดังนั้นจึงบอกได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เหมาะกับขาลุยชอบผจญภัยแต่ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายภาพสวย ๆ มาอวดเพื่อนในเฟสบุ๊คหรืออินสตาแกรม ซึ่งรุ่นนี้ขายแค่รุ่นความจำเดียวก็คือ RAM 12 + ROM256 มีสองสีได้แก่สี Gloss black และสี Blue ในราคา 33,990 บาท พร้อมรับของแถมแบบ Limited Edition มูลค่า 3,000 กว่าบาทให้ทุกท่านที่ซื้อรุ่นนี้อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดสมาร์ทโฟนรุ่น OPPO Find X3 Pro ได้ที่ oppo.com/th/smartphones/series-find-x/find-x3-pro
Vivo
เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาของแบรนด์สมาร์ทโฟนอย่าง Vivo แบบก้าวกระโดดมาก เพราะรุ่นเรือธงที่เปิดตัวมาล่าสุดอย่างรุ่น Vivo X60 Pro 5G เป็นการร่วมมือครั้งแรกของทาง Vivo กับบริษัทกล้องและเลนส์ชื่อดังอย่าง “ZEISS” ในการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่มีกล้องหลัง 3 ตัวที่มีความคมชัดสูงสุด 48 MP พร้อมระบบกันสั่น Gimbal ที่ไม่ว่าจะอยู่นิ่ง ๆ หรือเคลื่อนที่แบบวิ่งก็สามารถถ่ายภาพให้ออกมาสวยได้ แม้ตัวเครื่องจะใส่ชิพ Qualcomm® Snapdragon™ 870 แต่ทาง Vivo มั่นใจว่าประสิทธิภาพไม่แพ้รุ่นเรือธงของแบรนด์อื่นแน่นอน นอกจากนี้ทาง Vivo ยังทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา ถือง่าย ไม่เทอะทะ แม้หน้าจอสีสดใสจาก AMOLED จะมีขนาดใหญ่ถึง 6.8 นิ้วก็ตาม ซึ่งรุ่นนี้เปิดตัวมาช่วงเดือนมิถุนายนปี พ.ศ. 2564 มีเพียงรุ่นเดียวคือ รุ่น 12GB+256GB มากับสี Shimmer Blue ในราคา 24,999 บาท ซึ่งหากคุณสนใจสามารถดูรายละเอียดสมาร์ทโฟนรุ่น Vivo X60 Pro 5G ได้ที่ vivo.com/th/products/x60pro#professional
ABOUT THE AUTHOR
choerryblossom
สาวน้อยนักเขียนฝึกหัด ประสบการณ์น้อยแต่แพชชั่นร้อยเต็ม