- Lifestyle
แมนฯซิตี้ “โหด” เหมือนเดิม เพิ่มเติม คือ “ความเขี้ยว”
By Sweeper Keeper • on Nov 08, 2018 • 1,712 Views
ยากที่จะใครจะมาหยุดจริงๆ สำหรับฟอร์มในตอนนี้ของ แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่พวกเขาเปิดบ้าน “สอนบอล” ผู้มาเยือนอย่าง เซาธ์แฮมตัน ไปขาดลอยถึง 6-1
ซึ่งชัยชนะที่มีต่อ เซาธ์แฮมตัน ในเกมนี้ ทำให้ ทีมเรือใบสีฟ้า ในยุคของผู้จัดการทีมที่ชื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำสถิติถล่มคู่แข่ง 5 ลูกขึ้นไปมาแล้วถึง 12 เกมด้วยกัน
โดย 12 เกมที่ว่านี้ เป็นชัยชนะในการลงเล่นเกมฤดูกาลนี้ถึง 4 นัด ไล่ไปตั้งแต่ ชนะ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ 6-1, ชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 5-0, ชนะ เบิร์นลี่ย์ 5-0 และล่าสุดเอาชนะ เซาธ์แฮมตัน ไป 6-1
พูดง่ายๆ ว่า 11 นัดตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา มีเกมที่ แมนฯ ซิตี้ โชว์ฟอร์มโหด ไล่ถล่มคู่ต่อสู้ด้วยสกอร์ 5 ประตูขึ้นไปถึง 4 นัดด้วยกัน!
และถ้ายิ่งมาดูจำนวนประตูรวมที่ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำไปแล้วตอนนี้ถึง 33 ประตู ยิ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า เกมรุก ของพวกเขานั้น “ร้อนแรง” ยากที่ใครจะมาต้านทานได้จริงๆ
เกมรุก ที่ไม่ต้องหวังพึ่งแค่ใครคนเดียว
ในขณะที่ทีมลุ้นแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล ที่ เกมรุก ยังคงต้องอาศัยความมหัศจรรย์ของ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ส่วน เกมรุก ของ เชลซี ก็ยังต้องฝากความหวังไว้กับ เอเด็น อาซาร์
แต่ เกมรุก ของ แมนฯ ซิตี้ นั้น ไม่ได้พึ่งนักเตะคนใดคนหนึ่ง ตัวอย่างที่ชัดเจนเลยก็คือ การที่ทีมขาด จอมทัพ อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ จากอาการบาดเจ็บ แต่ก็แทบไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย
เพราะนักเตะในแนวรุกของทีมคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เซร์จิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอริ่ง, ดาบิด ซิลวา, ริยาด มาห์เรซ, ลีรอย ซาเน่ ล้วนแต่พร้อมจะทำให้กองหลังทีมคู่แข่งน้ำตาตกในได้ตลอดเวลา
เมื่อพูดถึง ราฮีม สเตอริ่ง ตอนนี้ถือเป็นนักเตะ แมนฯ ซิตี้ ที่ ฟอร์มฮ็อท ที่สุดเลยก็ว่าได้ ล่าสุด สเตอริ่ง เพิ่งจะระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการยิงคนเดียวสองประตู แถมทำอีกสามแอสซิสต์ ในเกมที่ ถล่ม เซาธ์แฮมตัน
โดยภายหลังจบเกม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ออกมาชื่นชมฟอร์มการเล่นของปีกตัวจี๊ดรายนี้ แถมยังเปิดเผยอีกด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้ สเตอริ่ง ยกระดับฝีเท้าขึ้นมาอีกขั้นในซีซั่นนี้ เป็นเพราะว่าเขาปรับทัศนคติให้ สเตอริ่ง กล้าที่จะยิงประตูมากขึ้น แทนที่จะเอาแต่คิดว่าต้องส่งให้เพื่อนทำประตูเหมือนที่ผ่านมา
บอลบุก ที่มาพร้อมกับแท็คทิคอันรัดกุม
นอกเหนือจาก เกมรุก สุดโหด ระดับ 10 กะโหลกแล้ว สิ่งที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่น่ากลัวขึ้นกว่าปีก่อนก็คือ “ความเขี้ยว”
อธิบายให้ชัดเจนขึ้นก็คือ ฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่ทีมที่ดาหน้าบุกใส่คู่แข่งอย่างบ้าคลั่งตลอดทุกเกมเหมือนที่เราคุ้นเคยอีกแล้ว
แต่พวกเขายังสามารถเลือกแท็คทิคการเล่นที่เน้นความรัดกุม เพื่อไม่ให้ทีม “เพลียงพล้ำ” ถูกคู่ต่อสู้โจมตีด้วยจังหวะสวนกลับได้ง่ายๆ
หลังจากที่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทีมเรือใบสีฟ้า ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ถึง 3 เกม จากการพบกันทั้งหมด 4 เกม (2 เกมในพรีเมียร์ ลีก และอีก 2 เกมในแชมเปี้ยน ลีก) และเสียประตูไปถึง 9 ลูก
มาในฤดูกาลนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกที่จะใช้แท็คทิคที่ว่านี้ในเกมบุกไปเยือน หงส์แดง ที่แอนฟิลด์ ซึ่งพวกเขาก็เกือบที่จะยัดเยียดความปราชัยให้กับทีมเจ้าบ้านได้อยู่แล้ว หาก ริยาด มาห์เรซ ไม่ยิงจุดโทษพลาดช่วงท้ายเกม
และด้วยวิธีการเล่นที่ “เขี้ยวขึ้น” นี่แหละ ที่มีส่วนทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ กลายเป็นทีมที่แกร่งทั่วแผ่น เพราะนอกจากจะเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดของลีกแล้ว แมนฯซิตี้ ยังเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกตอนนี้อีกด้วย
เห็นแบบนี้แล้ว บอกตามตรงเลยว่า “เหนื่อยใจ” แทนทีมที่คิดจะมาขอลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จริงๆ!!
8 ประเด็นน่ารู้ หลังเกม แมนฯ ซิตี้ ไล่ถล่ม เซาธ์แฮมตัน ยับเยิน 6-1
1. แมนฯซิตี้ ทำสถิติไร้พ่ายติดต่อกันเป็นนัดที่ 43 ในเกมลีกที่ทีมมีคิวลงเตะในเวลาบ่าย 3 โมง (ตามเวลาที่อังกฤษ) โดยทำสถิติชนะ 37 เสมอ 6
2. เซาธ์แฮมตัน ไม่สามารถบุกมาเอาชนะ แมนฯซิตี้ ได้ติดต่อกันเป็นนัดที่ 9 (แพ้ 8 เสมอ 1) โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาบุกมาชนะ ทีมเรือใบสีฟ้า ได้ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 2004 เลยทีเดียว
3. นับตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มประตูคู่แข่ง 5 ลูกขึ้นไป มาแล้วถึง 12 เกม
4. ประตูจากจุดโทษที่ แดนนี่ อิงค์ ทำให้กับ เชาธ์แฮมตัน ในเกมนี้ เป็นประตูแรกของที่ ทีมนักบุญ ทำได้ในรอบ 505 นาที ขณะเดียวกัน ประตูนี้ทำให้ แมนฯซิตี้ หยุดสถิติไม่เสียประตูให้กับทีมไหนเลยในการลงเตะทุกรายการไว้ที่ 630 นาที
5. เซร์จิโอ อเกวโร่ ทำประตูที่ 150 ในพรีเมียร์ ลีกของตัวเองได้ในการลงเตะไป 217 นัด ซึ่งเขาทำประตูแตะหลัก 150 ลูก ในจำนวนเกมที่เป็นรองแค่ อลัน เชียเรอร์ คนเดียวเท่านั้น โดย เชียเรอร์ ยิงได้ 150 ประตู จากการลงสนามไปเพียง 212 เกม
6. นับตั้งแต่ฤดูที่แล้วเป็นต้นมา ลีรอย ซาเน่ ทำแอสซิสต์ไปแล้วถึง 18 ครั้ง เฉพาะการลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดของลีกในตอนนี้
7. สองประตูที่ ราฮีม สเตอริ่ง ยิงได้ในเกมนี้ ทำให้เขาทำประตูรวมนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้วทั้งหมด 50 ลูก
8. เวสลี่ย์ โฮลด์ท นักเตะ เซาธ์แฮมนตัน ที่ทำลูกเข้าประตูตัวเองในเกมนี้ กลายเป็นนักเตะที่ยิงเข้าประตูตัวเองมากที่สุดในลีก โดยเขาทำเข้าประตูตัวเองไปแล้ว 2 ลูกด้วยกัน
เครดิตภาพ : www.stadiumastro.com, www.premierleague.com
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง