- Entertainment
The Face Lessons EP.7: โอกาสจะมองหาคนที่ทุ่มเท และแสดงความต้องการให้เห็น
By DiamondP • on Nov 28, 2018 • 2,400 Views
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วค่ะกับโค้งสุดท้ายของรายการ The Face Men Thailand Season 2 ที่ตอนนี้เดินทางมาถึงตอนที่ 8 กับแคมเปญที่ 7 หลังจากทิ้งความน่าติดตามเอาไว้ในตอนจบรายการเมื่อตอนที่แล้ว ในตอนนี้เดอะ เฟซฯ ก็จัดเต็มทั้งมาสเตอร์คลาส และแคมเปญ กับความเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ รวมทั้งการกลับเข้าสู่เกมของหนึ่งในสมาชิกทีม #MasterLukkade ครั้งนี้จะส่งผลอะไรกับรายการบ้าง วันนี้เรามารีวิวพร้อมกับถอดบทเรียนกันค่ะ
การทำงานของมาสเตอร์ และกฎใหม่ที่ไม่ดราม่า?
เริ่มต้นกันที่ Master Class ของร่างทรงคุณเต้ หรือคุณแม่ลูกเกด คราวนี้มาในแนวกึ่ง Free Running ทดสอบความแข็งแรงของร่างกายและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าแข่ง เหนือกว่าการทำแคมเปญคือการที่มาสเตอร์ลูกเกดเชิญเมนเทอร์ทั้ง 3 คนมาร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมประกาศว่านี่จะเป็นแคมเปญเก็บคะแนนครั้งสุดท้าย ที่จะส่งผลให้หนึ่งในสมาชิกของทีมมาสเตอร์ได้กลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง โดยผลการตัดสินใจทั้งหมดเป็นของคุณแม่ลูกเกดเพียงคนเดียวเท่านั้น
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ กฎการเอาคนที่หลุดออกจากเกมไปแล้วกลับมาในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การปลุกกระแสดราม่าเหมือนที่เคยเกิดขึ้นใน The Face All Star ในมุมมองของเรา การเพิ่มกฎเข้ามาใหม่โดยไม่มีการระบุไว้ตั้งแต่ต้นอาจเป็นเรื่องที่ไม่แฟร์ แต่เมื่อมองในแง่ของการทำงานคือ การทำงานแต่ละครั้งมักจะมีตัวแปรที่ไม่คาดคิดเข้ามามีอิทธิพลเสมอ การปรับตัวและความมุ่งมั่นที่จะเผชิญหน้ากับมันคือ หนึ่งในสิ่งที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ
ผลการแข่งขันใน Master Class ชัยชนะครั้งนี้ตกเป็นของ ลูอิส จากทีม #MentorSonia แต่คนที่มาสเตอร์ลูกเกดเลือกให้กลับเข้าสู่การแข่งขันคือ วิลเลี่ยม ดาวเด่นของทีมมาสเตอร์ ที่ถูกเลือกให้กลับเข้าสู่ทีมโทนีอีกครั้ง คนที่ดีใจที่สุดรองจาก #MentorToni คงหนีไม่พ้นแบงค์เขาล่ะค่ะคุณ (แซว)
เลือกคนให้เหมาะกับงาน คำสอนสุดคลาสสิคที่ใช้ได้เสมอ
ต่อเนื่องเข้าสู่ช่วงของ Campaign ที่ในสัปดาห์นี้เป็นการถ่ายทำ Ad Video มาในแนวของฟรีรันนิ่ง ที่ต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกาย บวกกับแอ็คติ้งการแสดง ด้วยการประกบคู่กับแบรนด์แอมบาสเตอร์ของลูกค้าเจ้าของแคมเปญอย่าง ปู ไปรยา ที่งานนี้แน่นอนว่าไม่ได้ทดสอบแค่ผู้เข้าแข่งขันแต่ยังเป็นการทดสอบตัวเมนเทอร์ด้วย ประเด็นที่เราจะพูดถึงแคมเปญนี้ก็คือ การเลือกคนให้เหมาะกับงาน หรือ Put the right man in the right job คำสอนสุดคลาสสิคที่ใช้ได้ดีเสมอ
การทำงานของเหล่าเมนเทอร์ทั้ง 3 คนแสดงออกมาให้เห็นชัดผ่านแคมเปญ ด้วยการจัดลำดับลูกทีมของตัวเองให้แสดงตามบทบาทแต่ละขั้นแต่ละตอนของวีดีโอ ซึ่งค่อนข้างตรงจุดเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น
- แบงค์ (ทีมโทนี่) ที่ไม่โดดเด่นเรื่องร่างกาย เลยถูกเลือกให้แสดงเปิดที่ต้องเน้นเรื่องใบหน้า แอ็คติ้ง
- หมูหยอง (ทีมโทนี่) ที่ไม่โดดเด่นเรื่องการแสดงแบบภาพเคลื่อนไหว แต่มีจุดเด่นที่ร่างกายกำยำ เลยถูกเลือกให้แสดงในบทที่ต้องโชว์ความแข็งแกร่งของร่างกาย
- คิม (ทีมหมู) กับใบหน้าที่กล้องรัก จึงถูกเลือกให้เป็นคนถ่ายซีนเปิด ดึงดูดความสนใจด้วยรอยยิ้ม
- เรียวตะ (ทีมโทนี่) ด้วยความที่เป็นคนที่มีเอเนจี้ในตัวสูง และอาจจะไม่เก่งกาจเรื่องการแสดงมาก จึงถูกเลือกให้แสดงในฉากที่ต้องใช้พลังทางร่างกายมากกว่า พลังทางอารมณ์
- ป็อปปี้ (ทีมหมู) โดดเด่นในเรื่องของการแสดงมากที่สุดในทีม จึงถูกเลือกให้แสดงในฉากที่ต้องใช้ทักษะดังกล่าว พร้อมกับเป็นคนพูดบท
ผลการแข่งขันออกมาว่า ทีมที่ชนะแคมเปญคือ #TeamMoo สร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นเมนเทอร์คนแรกของรายการ The Face ที่สามารถชนะแคมเปญติดต่อกันได้ถึง 4 แคมเปญ แต่นั่นอาจจะไม่สำคัญเท่ากับการที่เราได้เห็น #MentorToni จิกกัดเมนเทอร์หมูเป็นครั้งแรก มันสำคัญยังไงหรอคะ? มันแสดงให้เห็นว่าเมนเทอร์โทนีดูเหมือนจะปรับตัวและมีความสุขเข้ากับรายการได้แล้ว ไม่แน่ว่าเราอาจจะมีโอกาสได้เห็นเขาในซีซั่นต่อ ๆ ไปก็ได้นะคะ
ความเสี่ยงกับการเพลย์เซฟ Tough Mom ที่อาจมาช้าไปนิด
หัวข้อสุดท้ายในสัปดาห์นี้เราขอมอบให้กับเมนเทอร์ซอนย่า ที่ดูเหมือนแฟน ๆ จะกังขากับทีท่าที่ค่อนข้างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจาก The Face All Star ทั้งความเฟียส หรือความเป็นตัวแม่ที่ดูดรอปไป แทนที่ด้วยลุคของคุณแม่แสนใจดี เลี้ยงดูลูก ๆ ในทีมพร้อมพยายามให้คิดนอกกรอบ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ประสบความสำเร็จนัก เพราะตลอดทั้งซีซั่นคุณแม่ซอนย่าสามารถพาทีมชนะไปได้เพียงแค่แคมเปญเดียวเท่านั้น ช่วงเวลาเลือกลูกทีมเข้าห้องดำในสัปดาห์นี้เมนเทอร์ซอนย่าจึงมาในลุคแบบ Tough Mom
ความเด็ดขาดและการแสดงออกที่แสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีความสุขกับผลงานที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เริ่มต้นตั้งแต่การไม่ยอมนั่งลงเพื่ออธิบายข้อผิดพลาดให้กับลูกทีมฟัง หรือการตัดสินใจเลือกให้คัทจังเป็นตัวแทนทีมเข้าสู่ห้องดำโดยไม่อารัมภบทใด ๆ แสดงให้เห็นว่าบางครั้งการใช้ไม้อ่อนเพื่อสนับสนุนทีมอาจไม่ใช่วิธีเดียวในการสร้างผลงาน การใช้ไม้แข็งบ้างก็สามารถเป็นแรงกระตุ้นที่ดีได้เช่นกัน แต่มันก็ชวนให้ตั้งคำถามว่ากว่าจะงัดไม้แข็งออกมาใช้…มันจะยังไม่สายเกินไปเหรอคะเมนเทอร์ซอนย่า
สรุปนะคะ
สำหรับการเดินทางต่อเนื่องมาจนถึงตอนที่ 8 ของ The Face Men Thailand Season 2 เหลืออีกเพียง 2 ตอนเท่านั้น รายการสุดแซ่บนี้ก็จะจบลงแล้ว กับการพลิกลุคของรายการจากการเน้นไปที่ดราม่าของเหล่าเมนเทอร์ มาเป็นการทำงานในโหมดจริงจัง พร้อมกับเพิ่มบทบาทร่างทรงของคุณเต้ไว้ที่ มาสเตอร์ลูกเกด เราก็พอจะได้รับรสชาติใหม่ ๆ ของ The Face มาบ้าง สัปดาห์หน้าจะเป็นโค้งสุดท้ายแล้วค่ะของการแข่งขัน มารอดูกันว่าเหล่าเมนเทอร์จะต้องเสียน้ำตากันมากน้อยแค่ไหนกับการเลือกหนึ่งเดียวของทีมที่จะได้ก้าวเข้าสู่ Final Walk
ตามไปด้วยกันจนจบเลยค่ะ
XOXO
อ่าน The Face Lessons ตอนอื่น ๆ
Master Mentor คืออะไร? หรือจะเป็นหมากตัวใหม่รีแบรนด์ The Face
The Face Lesson EP.1-2 : เพราะชีวิตจริงคือการแข่งขัน แค่ “แฟร์” อย่างเดียวมันไม่พอ!
The Face Lessons EP.3: ทำดีแล้ว ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำดีกว่าเราไม่ได้
The Face Lessons EP.4: ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะข้ามขีดจำกัดได้ จงยอมรับและพัฒนา
The Face Lessons EP.5: เครื่องมือของความก้าวหน้าคือการเอาชนะความกลัว
The Face Lessons EP.6: อยากยืนหนึ่งเหนือใคร ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ฉลาด
ภาพจาก: Facebook Page The Face Thailand
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน