- Lifestyle
4 เกม โกงความตาย! ของ หงส์แดง
By Sweeper Keeper • on Dec 04, 2018 • 1,858 Views
เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แม็ตช์ ที่ผ่านพ้นไป ถือเป็นอีกเกมที่ ลิเวอร์พูล เล่นได้ไม่ดี แต่กลับคว้าสามแต้มสำคัญได้ ชนิดที่แม้แต่ เด็กหงส์ ทั้งหลายยังแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง!
โดยสามแต้มในเกมนี้ ถือเป็นสามแต้มที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าหากเกมนี้จบลงด้วยการเสมอ ลิเวอร์พูล จะโดน จ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่างออกไปเป็นสี่คะแนนทันที
แต่ในเมื่อ ลิเวอร์พูล สามารถ “โกงความตาย” ด้วยการมาได้ประตูชัยจาก ดิว็อก โอริกี้ ในนาทีที่ 90 บวก 6 ก็เลยทำให้พวกเขายังคงตามหลังทีมแชมป์เก่าอยู่แค่สองคะแนนเท่าเดิม
ซึ่งนั่นหมายความว่า โอกาสลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ยังคงเปิดกว้างต่อไป เพราะหากวันไหนที่ แมนฯซิตี้ เกิดไม่ชนะขึ้นมา ลิเวอร์พูล มีสิทธิ์พลิกแซงขึ้นจ่าฝูงได้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตาม หากเรามองย้อนกลับไปดูผลงานต้ั้งแต่เปิดซีซั่นเป็นต้นมาจะพบว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ใช้ดวงเปลืองจริงๆ!
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์จากที่กำลังเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ กลับมาเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้
พูดง่ายๆ ว่า ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ดีเฉพาะฝีเท้าเท่านั้น แต่ดวงยังดีอีกต่างหาก!
เพราะตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา มีอยู่หลายนัดที่พวกเขาเกือบจะแพ้อยู่แล้ว แต่ก็ลงเอยด้วยผลเสมอ บางนัดเกือบจะเสมอ แต่พลิกกลับมาชนะได้ซะอย่างงั้น
ด้วยเหตุนี้เอง เราเลยอยากจะพาทุกคนกลับไปทวนความจำกันซักหน่อยว่า มีเกมไหนบ้างที่ ลิเวอร์พูล พลิกนรก โกงความตาย ฟื้นคืนชีพ กลับมาได้บ้าง…
1. ลิเวอร์พูล VS แมนฯซิตี้ (สกอร์ 0-0)
[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=_GcSec9CBYA” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]
เมื่อซีซั่นที่แล้ว แมนฯ ซิตี้ แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ถึง 3 เกม จากทั้งหมด 4 ครั้งที่เผชิญหน้ากัน นั่นทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมายมั่นปั้นมือที่จะให้ลูกทีมของเขาบุกไปล้างแค้น ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ให้ได้
โดยนัดนี้ ทีมแชมป์เก่า ลงสนามพร้อมกับแท็คทิคที่รัดกุม จนทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถใช้เกมสวนกลับที่เคยเป็นอาวุธเด็ดเล่นงานพวกเขาได้ เกมที่ออกมาเลยดูอึดอัด และไม่ได้เป็นการเปิดเกมรุกแลกกันอย่างที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้
จนกระทั่งจุดไคล์แม็กซ์ของเกมมาเกิดขึ้นในนาทีที่ 85 เมื่อ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค สกัด ลีรอย ซาเน่ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นลูกจุดโทษ แต่ ริยาด มาห์เรซ ปีกของ แมนฯซิตี้ กลับยิงเหินข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เกมนี้ก็เลยจบลงด้วยผลเสมอกัน 0-0 ทำให้ ลิเวอร์พูล รอดพ้นจากความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาลไปได้อย่างหวุดหวิด
2. เชลซี VS ลิเวอร์พูล (สกอร์ 1-1)
[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=I9vXpswxMRk” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]
เป็นอีกเกมที่ ลิเวอร์พูล รอดพ้นจากความพ่ายแพ้อย่างหวุดหวิดที่สุด โดย เอเด็น อาซาร์ เป็นฝ่ายทำประตูให้ เชลซี ออกนำไปตั้งแต่ครึ่งแรกในนาทีที่ 25
แม้ในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าเล็กน้อย และมีโอกาสจะๆ อยู่ 2-3 ครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังตามตีเสมอไม่ได้
เกมน่าจะลงเอยด้วยชัยชนะของทีมเจ้าบ้าน เชลซี จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 86 เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจส่ง แดเนี่ยล สเตอริดจ์ ลงมาเป็นตัวสำรอง และเขาก็สวมบทเป็นซูเปอร์ซับ ด้วยการยิงไกลนอกกรอบเขตโทษส่งบอลฮุคเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ชนิดที่ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดในโลกของ เชลซี หมดสิทธิ์รับ
โดยลูกยิงตีเสมอของ สเตอริดจ์ นั้น เกิดขึ้นในนาทีที่ 89 ซึ่งนั่นเท่ากับว่า ดาวยิงจอมเซิ้ง รายนี้ใช้เวลาในสนามเพียง 3 นาทีเท่านั้น ในการยิงลูกตีเสมอให้ ลิเวอร์พูล รอดพ้นจากความปราชัยไปได้อีกนัด
3. สเปอร์ส VS ลิเวอร์พูล (สกอร์ 1-2)
[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=Q18_L-sycS8″ videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]
ดูเผินๆ แล้ว เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สเปอร์ส ได้แบบสบายๆ เพราะเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนถึง 2-0 แถมยังเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด
แต่เกมก็มาเข้มข้นเอาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ เอริค ลาเมล่า ที่ถูกส่งมาเป็นตัวสำรอง ยิงประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ปลุกให้ สเปอร์ส กลับมามีความหวังในช่วงเวลาที่เหลือ
และก่อนหมดเวลาเพียงอีกไม่กี่อึดใจ สเปอร์ส ก็พาบอลบุกเข้ามาป่วนเปี้ยนในกรอบเขตโทษ ลูกหลุดมาถึง ซอน เฮือง มิน ที่พยายามจะแตะบอลหนีเพื่อหาจังหวะยิง แต่กลับถูก ซาดิโอ มาเน่ ที่ลงมาช่วยเกมรับแซะเข้าที่เท้าซ้ายจนล้มลง แต่โชคดีที่กรรมการไม่ให้เป็นลูกจุดโทษ
ซึ่งถ้าว่ากันจริงๆ หากมีการใช้ วีเออาร์ มาช่วยในการตัดสิน สเปอร์ส สมควรจะได้ลูกจุดโทษจากจังหวะนี้ ซึ่งหมายความว่า สเปอร์ส อาจจะตีเสมอได้จากจุดโทษลูกนี้ และทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่ชนะในเกมนี้
4. ลิเวอร์พูล VS เอฟเวอร์ตัน (สกอร์ 1-0)
[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=QfvlG3zS50U” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]
เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ กับรูปเกมที่ออกมาค่อนข้างๆ สูสี ที่ถึงแม้ ลิเวอร์พูล จะครองเกมได้เหนือกว่า เอฟเวอร์ตัน ผู้มาเยือน แต่จนแล้วจนรอด ฝั่งเจ้าบ้านก็ไม่ได้ประตูขึ้นนำที่ต้องการซะที
มิหนำซ้ำ ยังหวุดหวิดเกือบที่จะโดนนำไปก่อนหลายต่อหลายครั้ง แต่ดีที่ยังได้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ช่วยเซฟไว้ได้หมด
เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอแบ่งกันไปคนละแต้มอยู่แล้วแท้ๆ แต่ เทพีแห่งโชค ก็เข้าข้าง ลิเวอร์พูล อีกครั้งจนได้
เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สาดโด่งจากครึ่งสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่โดนนักเตะ เอฟเวอร์ตัน โหม่งสกัดออกมาเข้าทาง ฟาน ไดจ์ค ที่พยายามจะยิงสวนเข้าไป แต่เตะไม่ดี ลูกลอยโด่งเหมือนจะไม่ได้ลุ้น
แต่บอลก็ดันไปหล่นบนคาน แถม จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตู เอฟเวอร์ตัน ก็ตัดสินใจเล่นช็อตนี้ผิดพลาด ด้วยการปัดบอลเข้ามาในสนามกะว่าจะรับเข้าซองเพื่อทวงเวลา แต่ลูกดันหลุดมาเข้าทางของ ดิว็อค โอริกี้ ที่วิ่งปรี่เข้าไปโหม่งเป็นประตูชัยในนาทีที่ 96 ทำให้ ลิเวอร์พูล ชนะในเกมนี้ไปแบบ สุดดราม่า!!!
เครดิตภาพและวีดีโอ : www.premierleague.com, Liverpool FC, beIN SPORTS Thailand
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง