- Lifestyle
“พลังพิเศษ” บางอย่าง ที่อาจส่ง ลิเวอร์พูล ก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์!
By Sweeper Keeper • on Jan 22, 2019 • 2,250 Views
ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆ กับการที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งมี เกมรับ ดีที่สุดในลีกตอนนี้ เสียประตูให้ คริสตัล พาเลซ ในบ้านตัวเองถึง 3 ลูก
แต่สิ่งที่ ไม่ปกติ ยิ่งกว่าก็คือ การที่ ลิเวอร์พูล สามารถเฉือนเอาชนะ พาเลซ ไปในท้ายที่สุด 4-3 เกมนี้ เป็นอีกครั้งที่พวกเขาตกอยู่สถานการณ์คับขัน เจียนอยู่ เจียนไป และเสี่ยงสุดๆ ต่อการทำแต้มหลุดมือ แต่ก็เอาตัวรอดมาได้
ทำให้จนถึงตอนนี้ หากนับเฉพาะ 11 เกมในพรีเมียร์ ลีก ที่ลงเตะในแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล ชนะไปถึง 10 เกม เสมออีก 1 เกม โดย 7 เกมหลังสุดที่เล่นในบ้านพวกเขาชนะรวด
นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล เก็บแต้มจากการเล่นเป็นทีมเหย้าได้ถึง 31 แต้ม จาก 33 คะแนนเต็ม!
หากเรามองย้อนกลับไป จริงๆ แล้ว 11 เกมที่เล่นในแอนฟิลด์ มีอยู่ 2 เกม ที่ ลิเวอร์พูล “โกงความตาย” มาได้ นั่นคือ เกมที่พวกเขาเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน จากประตูชัยในนาทีที่ 96 และเกมที่เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ ไป 0-0 ทั้งๆ ที่เสียจุดโทษในช่วงท้ายเกม แต่ ริยาด มาห์เรซ ดันยิงไม่เข้า
ซึ่งถ้าผลการแข่งขันสองเกมที่ว่านี้ กลับกลายเป็น เสมอ เอฟเวอร์ตัน และ แพ้ แมนฯ ซิตี้ เท่ากับว่า แต้มของ ลิเวอร์พูล จะลดลงไป 3 แต้ม
และในเกมล่าสุดกับ คริสตัล พาเลซ ก็เป็นอีกเกมหนึ่งที่ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะ เกมรับ ทั้งที่ปีนี้ ลิเวอร์พูล ขึ้นชื่อลือชาเหลือเกินกับการเป็นทีมที่เสียประตูยาก แต่เกมนี้กลับโดนผู้มาเยือนกระหน่ำไปถึงสามประตู
แต่ในวันที่แนวรับปั่นป่วน เต็มไปด้วยความผิดพลาด ก็ยังได้สามประสานในเกมรุกอย่าง มาเน่, ฟีร์มิโน่ และ ซาล่าห์ ช่วยกันยิงประตูให้ทีมพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะไปได้
อย่างไรก็ตาม แม้ ลิเวอร์พูล จะยิงประตูได้ถึงสี่ลูกในเกมนี้ แต่จริงๆ แล้ว เกมรับ ของ คริสตัล พาเลซ ก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไรมากมาย
เพราะก่อนจะได้ประตูตีเสมอ พูดตามตรงว่า เกมรุก ของ ลิเวอร์พูล ยังเล่นกันได้ ตื่อๆ ตันๆ ไม่มีวี่แววว่าจะเจาะ แนวรับ ของ พาเลซ ได้
แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูจาก “ลูกแฉลบ” สองลูกติดๆ กัน ลูกแรก ฟาน ไดจ์ค ลองซัดไกลแต่บอลแฉลบผู้เล่น พาเลซ มาเข้าทาง โม ซาล่าห์ ยิงเป็นประตูตีเสมอ ลูกที่สอง บ็อบบี้ ฟีร์มิโน่ ยิงแฉลบกองหลัง กลายเป็นลูกปั่นโค้งๆ เข้าประตูไป
ในขณะที่ ลูกที่สาม เป็นความผิดพลาดของ จูเลี่ยน สเปโรนี่ นายทวารมือสาม (วัย 39 ปี) ของ คริสตัล พาเลซ ที่ปัดบอลพลาด จนทำให้ ซาล่าห์ วิ่งมาชาร์จบอลเข้าประตูไป
พูดง่ายๆ ว่า สามประตูแรก ที่ ลิเวอร์พูล ยิง คริสตัล พาเลซ ได้นั้น มีเรื่องของ “โชค” เรื่องของ “ดวง” เข้ามาช่วย สองประตูแรกได้จาก “ลูกแฉลบ” ส่วนอีกลูกได้จากผู้รักษาประตูคู่แข่งปัดบอลมาให้ยิง มีแค่ลูกที่สี่จาก มาเน่ เท่านั้น ที่ยิงเข้าไปแบบหมดจด ไร้มลทิน
และเมื่อพูดถึงประตูที่ได้มาจาก “ลูกแฉลบ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ลิเวอร์พูล ได้ประตูจาก “ลูกแฉลบ” และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมจนนำไปสู่การเป็นผู้ชนะ
หากจำกันได้ ในเกมแดงเดือดที่ผ่านพ้นไป สองประตูที่ เซอร์ดาน ชากิรี่ ยิงให้ทีมเป็นฝ่ายเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 3-1 ก็เป็น “ลูกแฉลบ” ทั้งสองลูก
เท่านั้นยังไม่พอ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกอีกเช่นกันที่ ลิเวอร์พูล ได้ประตูจากลูกที่ผู้รักษาประตูปัดบอลมาให้ยิง เพราะก่อนหน้านี้ จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน ก็เคยปัดบอลกลับเข้ามาให้ ดิว็อค โอริกี้ โหม่งเข้าประตูมาแล้ว
กระนั้นก็ตาม บางทีการที่คนเราจะมี “โชค” หรือ “ดวง” ได้ก็ต่อเมื่อ เราจะต้องทำสิ่งนั้นให้สุดความสามารถเสียก่อน แล้ว “โชค”, “ดวง” (รวมไปถึง “ลูกแฉลบ”) ถึงจะตามมาทีหลัง
เหมือนกับที่ ลิเวอร์พูล ได้ประตูชัยในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน จากการพยายามบุกครั้งสุดท้าย เหมือนเกมกับ คริสตัล พาเลซ ที่แม้ทีมจะตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน แถมเหลือสิบคนช่วงท้ายเกม แต่ทุกคนก็รวมใจกันสู้จนคว้าสามแต้มมาได้
ทั้งหลายทั้งปวงกำลังจะบอกว่า ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา นอกเหนือจากเรื่องของ “ฝีเท้า” แล้ว ดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล จะเป็นทีมที่มี “พลังพิเศษ” อะไรบางอย่าง คอยเกื้อหนุนพวกเขาอยู่
บางเกมช่วยเปลี่ยนผลจากแพ้ กลายเป็น เสมอ บางเกมช่วยเปลี่ยนผลจากเสมอ กลายเป็น ชนะ
และอย่างน้อยๆ “พลังพิเศษ” ที่ว่า ก็ช่วยส่งให้ ลิเวอร์พูล มีอันดับเหนือกว่า แชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้ อยู่ ณ ตอนนี้…
เครดิตภาพ : www.standard.co.uk
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง