หล่นจากตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเป็นทางการไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล หลังทำได้แค่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน ไป 0-0

ทำให้สถานการณ์หลังจากลงเตะนัดที่ 29 เดิมที่ ลิเวอร์พูล มีแต้มนำหน้า แมนฯ ซิตี้ อยู่ 1 แต้ม กลับกลายเป็นทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ที่พลิกกลับมานำ ลิเวอร์พูล แล้ว 1 แต้มในตอนนี้

จากผลเสมอในนัดนี้ เท่ากับว่า 7 เกมล่าสุดในทุกรายการ ลิเวอร์พูล เสมอกับคู่แข่งไปถึง 5 นัด มิหนำซ้ำ การเสมอ 3 จาก 5 นัด ยังเป็นการเสมอแบบไร้สกอร์อีกต่างหาก ไล่ไปตั้งแต่ เสมอ บาเยิร์น 0-0, เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 และ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0

ทั้งหลายทั้งปวง นั่นแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ ลิเวอร์พูล จะยกระดับ เกมรับ ให้ขึ้นมาแข็งแกร่งจนกลายเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในพรีเมียร์ ลีก ณ ตอนนี้

แต่ เกมรุก กลับกลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกในช่วงหลังๆ เพราะหลายเกมที่ผ่านมา เกมรุก ของ ลิเวอร์พูล ดูแล้วยังขาดความหลากหลาย และไม่คมพอที่จะเผด็จศึกฝั่งตรงข้ามได้

ผิดกับทางฝั่งของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งจริงๆ แล้วในนัดล่าสุดที่พวกเขาบุกไปเยือน บอร์นมัธ รูปเกมที่ออกมาก็ดูอึดอัดไม่น้อยเช่นกัน

เพียงแต่ว่า ด้วยคุณภาพนักเตะทีมเรือใบสีฟ้าที่เล่นเกมรุกได้หลากหลาย และเฉียบขาดกว่า ทำให้พวกเขาได้ประตูที่ต้องการจนเฉือนเอาชนะ บอร์นมัธ ได้ 1-0 คว้าสามแต้มสำคัญไป

อย่างไรก็ตาม แม้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล จะร่วงจากตำแหน่งจ่าฝูงมาอยู่ในอันดับสองของตารางแล้ว แต่การตามหลังแค่ 1 แต้ม กับเกมที่ยังเหลืออยู่อีกถึง 9 แม็ตช์ ต้องบอกว่า โอกาสการลุ้นแชมป์ยังคงเปิดกว้างอยู่

เพียงแต่ เงื่อนไขในการคว้าแชมป์ของ ลิเวอร์พูล ตอนนี้ ไม่ได้อยู่ในมือของตัวเองอีกต่อไป เพราะนอกจากจำเป็นจะต้องเก็บสามแต้มให้ได้ทุกนัดแล้ว พวกเขายังต้องหวังพึ่งทีมอื่นๆ ให้ช่วยตัดแต้ม แมนฯ ซิตี้ ด้วย

ซึ่งถ้าดูจากโปรแกรมการแข่งขันนัดที่เหลือของทีมแชมป์เก่า จริงๆ ก็ยังมีเกมยากๆ รออยู่หลายเกม ซึ่งมีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าพวกเขาอาจจะทำแต้มหลุดมือก็ได้

ว่าแต่จะเป็นเกมไหนบ้างนั้น ลองมาไล่เรียงกันดู…

คริสตัล พาเลซ VS แมนฯ ซิตี้ (14 เม.ย.)

ด้วยเความที่เคยบุกไปยัดเยียดความปราชัยแก่ แมนฯ ซิตี้ ถึงถิ่นมาแล้ว บวกกับการที่ รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ พาเลซ เคยเป็นผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล มาก่อน รวมถึงกองหลังตัวหลักอย่าง มามาดู ซาโก้ ก็เคยเป็นอดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล ด้วย เพราะฉะนั้น นี่จะเป็นหนึ่งนัดที่แฟนๆ หงส์แดง ลุ้นเป็นพิเศษ เพราะเชื่อลึกๆ ว่า ทั้ง ปู่รอย และ ซาโก้ จะใส่เต็มที่กับเกมนี้ เนื่องจากอยากเห็นทีมเก่าของตัวเองเข้าป้ายคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกมากกว่านั่นเอง

แมนฯ ซิตี้ VS สเปอร์ส (20 เม.ย.)

เป็นหนึ่งในเกมใหญ่ที่อยู่ในโปรแกรม 9 นัดสุดท้ายของทีมเรือใบสีฟ้า แม้ช่วงต้นฤดูกาล สเปอร์ส อาจจะเคยพ่ายคาบ้านให้กับ แมนฯ ซิตี้ มาแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่า ถึงตอนนั้นสถานการณ์การลุ้นอันดับ 3-4 ระหว่าง สเปอร์ส และ แมนฯ ยูไนเต็ด คงจะเข้มข้นไม่แพ้การลุ้นแชมป์ เพราะฉะนั้น สเปอร์ส จะเน้นเต็มสูบกับเกมนัดนี้แน่นอน หากพวกเขาไม่อยากโดนทีมที่ไล่ตามหลังมาทำอันดับแซงหน้าขึ้นไป

แมนฯ ยูไนเต็ด VS แมนฯ ซิตี้ (24 เม.ย.)

บางทีนี่อาจจะเป็นแม็ตช์ที่ตัดสินว่า แมนฯ ซิตี้ จะป้องกันแชมป์สำเร็จหรือเปล่าเลยก็ได้ เพราะในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แบบนี้ เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใครอยู่แล้ว และหากมองทางฝั่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยบุกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ มาแล้วในยุคที่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีม พวกเขาคงอยากจะขอล้างตาในเกมนี้ ซึ่งนี่จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของ โซลชา ด้วยว่า จะทำผลงานในการเจอกับ แมนฯ ซิตี้ ได้ดีกว่า มูรินโญ่ หรือไม่?

อีกอย่างก็คือ เกมนี้จะมีปรากฎการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เพราะแฟนหงส์แดงทั่วโลกจะพร้อมใจกันกลายร่างเป็นปีศาจแดงหนึ่งวันเพื่อเชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ช่วยตัดแต้ม แมนฯ ซิตี้!!!

แมนฯ ซิตี้ VS เลสเตอร์ (4 พ.ค.)

เป็นอีกเกมที่แฟนๆ หงส์แดง คงได้ลุ้นกัน เพราะนอกจากจะเป็นทีมที่เคยทำให้นักเตะ แมนฯ ซิตี้ เดินคอตกออกจากสนามมาแล้ว เลสเตอร์ เพิ่งจะได้ตัว เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล เข้ามาคุมทีมแทน โคล้ด ปูแอล ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งไป ซึ่งเด็กหงส์ทั้งหลายคงหวังให้คนกันเองอย่าง ร็อดเจอร์ส กำชับลูกทีมของเขาให้เน้นเต็มที่ในนัดนี้

ถ้าไม่หวังพึ่งคนกันเอง แล้วจะให้ไปหวังพึ่งใครล่ะ…จริงมั้ย?

เครดิตภาพ : www.standard.co.uk