- Beauty
โนสนโนแคร์! เผยเหตุผลทำไม Burberry ต้องเผาทำลายสินค้าตกรุ่น มูลค่าสูงกว่า 1,200 ล้าน
By ทีมงาน bsite • on Jul 20, 2018 • 1,867 Views
บอกเลยงานนี้อาจจะดราม่ามากกว่าเผาสินค้าผิดลิขสิทธิ์ในเมืองไทยซะอีก เมื่อมีรายงานข่าวว่า Burberry ลักซ์ชัวรี่แบรนด์จากอังกฤษ ตัดสินใจเผาทำลายทิ้งสินค้าแบรนด์ตัวเองมากมายหลายรายการ โดยที่โนสนโนแคร์ว่ามันจะมีมูลค่าสูงถึง 28.6 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นประมาณ 1,244 ล้านบาท!!
ถึงแม้ว่าสินค้าทั้งหมดที่ Burberry ตัดสินใจเผาทำลายจะเป็นสินค้ารุ่นเก่าแล้ว แต่หากรวมระยะเวลา 5 ปีที่ได้มีการเผาทิ้งทำลายสินค้าของแบรนด์แล้ว คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 90 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,900 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ส่วนเหตุผลที่แบรด์หรูตัวบี ตัดสินใจเบิร์น อิท ออล นั่นก็เป็นเพราะต้องการปกป้องแบรนด์ของตัวเองเป็นสำคัญ เหตุเพราะไม่ต้องการให้สินค้าถูกขโมยหรือถูกนำเอาไปขายทอดตลาด หรือแย่ไปกว่านั้นถูกนำไปเซลล์ลดราคากระหน่ำจนทำให้เสียแบรนด์
กระนั้นเลย Burberry จึงตัดใจเผาทิ้งมันเสียเลยดีกว่า! ที่จะยอมช้ำใจปล่อยเห็นแบรนด์ตัวเองถูกย่ำยีด้วยราคา SUPER SALE
ส่วนข้าวของที่เผาก็มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า น้ำหอม และเอสเซสเซอรี่ต่างๆ มากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของเก่าตกรุ่นไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางแบรนด์ยืนยันว่าการเผาทุกครั้งจะกระทำด้วยความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเสมอ
ก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา Burberry ทำงานอย่างหนักในการสร้างแบรนด์ให้กลับมาเอ็กซ์คลูซีฟอีกครั้ง หลังจากที่สินค้าปลอมและเลียนแบบระบาดหนักจนส่งผลกระทบต่อแบรนด์ของแท้ พูดง่ายๆ ว่าสลากสินค้าอะไรๆ ก็แทบจะติดคำว่า Burberry เต็มไปหมด จนสร้างปัญหาให้กับแบรนด์
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Maria Malone อาจารย์ด้านธุรกิจแฟชั่น มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เมโทรโพลิแทน วิเคราะห์ได้ลึกซึ้งกว่านั้นโดยเธอระบุว่า การเผาทำลายสินค้าที่ไม่ต้องการของแบรนด์เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการบางอย่างเท่านั้น
“แต่เหตุผลจริงๆ ที่แบรนด์ทำก็เพราะไม่ต้องการให้ตลาดเกลื่อนไปด้วยด้วยสินค้าลดราคามากเกินไป และบริษัทก็ไม่ต้องการให้สินค้า Burberry ตกไปอยู่ในมือของคนบางคนที่ซื้อมาตอนเซลล์แล้วไปทำให้แวลูของแบรนด์ลดลง”
ทั้งนี้ Burbery ไม่ใช่แบรนด์เดียวที่มีปัญหาสินค้าล้นเกินสต๊อก ยังมีแบรนด์ลักซ์ชัวรี่อื่นๆ ด้วย เช่น Cartier และ Montblanc แต่จะใช้วิธีซื้อกลับมากกว่าที่จะเผา โดยคาดว่าซื้อกลับมาเป็นเงินรวมแล้วประมาณ 430 ล้านปอนด์ (ประมาณ 18,000 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม หลายเสียงก็วิจารณ์ว่าการแก้ปัญหาด้วยการทิ้งหรือเผาทำลายอาจจะไม่ใชทางออกที่ดี แต่ควรจะนำมารีไซเคิลดีกว่าที่จะทำให้เสียของ ส่วนด้านสิ่งแวดล้อมนั้นแน่นอนว่าสร้างความขุ่นเคืองใจให้นักเคลื่อนไหวไม่น้อยเลย
“ทั้งๆ ที่เป็นสินค้าที่มีราคาแพงมาก แต่ Burberry กลับไปแสดงถึงความเคารพในโปรดักส์ของตัวเองเลย เราสูญเสียพลังงานและทรัพยากรไปเท่าไหร่กับสินค้าเหล่านี้” Lu Yen Roloff จากกรีนพีซระบุ รวมทั้งยังบอกว่าปัญหาของสต๊อกสินค้าล้น มาจากการผลิตในปริมาณที่มากจนเกินไป ซึ่งแทนที่ที่จะลดการผลิตลงกลับเลือกการทำลายสินค้าเหล่านั้นให้เป็นเถ้าถ่านแทน
“ถ้านี่คือความลับอันสกปกรกของอุตสาหกรรมแฟชั่น Burberry ก็เป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง” Lu Yen Roloff กล่าว
ปัจจุบัน Burberry มีรายได้เพิ่มขึ้น (เทียบกับช่วงสิ้นเดือนมีนาคมปีก่อน) ประมาณ 5% มีกำไรเพิ่มขึ้น 413 ล้านปอนด์ (ประมาณ 17,000 ล้านบาท) มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 2,700 ล้านปอนด์ (ประมาณ 110,000 บาท)
Source : BBC.co.uk
Credit ภาพ : pursuitist.com vogue.com
ABOUT THE AUTHOR
ทีมงาน bsite
Biographical Info