Vans รองเท้าขวัญใจนักสเก็ตบอร์ดทั้งหลาย เผยผลประกอบการไตรมาสสุดท้าย โดยบริษัทแม่ VF Corp ประกาศว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 35%

ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่ Vans จะขายสินค้ากับผู้บริโภคโดยตรงทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แต่ก็ยังทำยอดขายได้น่าประทับใจ ซึ่งจากยอดขายที่สตรองในไตรมาสสุดท้ายก็ส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 15% โดยปีที่แล้วยอดขายแตะอยู่ที่ 19% เท่านั้น

VF Corp. ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น The North Face, Timberland, Wrangler และยีนส์ Lee แต่ทั้งหมดนั้น Vans สร้างรางวัลเป็นกอบเป็นกำให้กับบริษัท

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า สิ่งที่ทำให้ Vans ได้เปรียบแบรนด์อื่นๆ ก็คือการดีไซน์ที่เป็น athletic looks หรือที่เรียกว่า Athleisure คือมีความเป็นลุคสปอร์ตแบบสบายๆ ที่ไม่หวือหวามาก สามารถไปมิกซ์แอนด์แม็ทช์กับสิ่งอื่นได้ ผสมกับความเรโทรนิดๆ ซึ่งทั้งหมดคือเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงในกลุ่ม Millennials

Matt Powello นักวิเคราะห์ตลาด กล่าวถึง Vans ว่า ผู้คนนิยมแบรนด์นี้เพราะสามารถใส่ได้ตลอดเวลาทุกโอกาสและสถานที่ จะไปทำงานไปเล่น หรือไปโรงเรียน โดยที่ไม่ทำให้ขัดหูขัดตา แถมยังใช้มันในเรื่องของการกีฬาได้อีกด้วย ยิ่งแคชชวลมากแค่ไหน มันคือไลฟ์สไตล์ที่กำลังร้อนแรง

แม้จะเป็นแบรนด์ที่เล็กกว่า Nike และ Adidas แต่ “Vans ก็หวังที่จะก้าวขึ้นมาเป็น active lifestyle footwear อันดับต้นๆ ให้ได้” Steven Rendle ซีอีโอ บอกกับนักวิเคราะห์

รองเท้าของ Vans จะราคาค่อนข้างถูกกว่าเจ้าใหญ่ โดยทำตลาดระดับกลาง โดยเฉพาะกับดีพาร์ทเมนต์สโตร โดยราคาที่ขายบนเว็บไซต์อยู่ที่ประมาณ 50-75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคู่

Vans ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1960 และทำตลาดให้น่าจับตาในกลุ่มกีฬาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักสเก็ตบอร์ด ซึ่งชื่อชอบแบรนด์นี้อย่างมาก และกลายมาเป็นผู้บริโภคยุคใหม่นำเทรนด์แฟชั่นที่ทรงพลัง ซึ่งกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์เติบโต

ด้าน Doug Palladini ประธานแบรนด์โกลบอล กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วรองเท้าของเราไม่ไดขายดีเฉพาะกลุ่มคนวัยทีนส์ในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยอดขายทั้งในยุโรปและเอเชียก็เติบโตขึ้นมาก ผู้ซื้อที่อายุมากก็ต้องการใส่มันเหมือนกันเพื่อให้รู้สึกว่ายังวัยรุ่นอยู่

“เราทั้งหมดจดจำได้ถึงร็อคคอนเสิร์ตครั้งแรก และจูบแรก และเมื่อคุณสวม Vans มันนำความรู้สึกนั้นกลับคืนมอีกครั้ง” Palladini กล่าว

Source : Money.cnn.com