สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ยังคงเป็นเรื่องที่คนกรุงยังต้องเผชิญ และเรื่องนี้ก้ยังไม่มีทางแก้ไขที่ยั่งยืน หน้ากาก N95 การพ่นละอองน้ำก็พอจะช่วยให้ ไม่ต้องเผชิญฝุ่นละอองโดยตรง หรือแม้แต่ทำฝนเทียมของภาครัฐที่ไม่รู้จะได้ผลจริงหรือไม่ และเราต้องทนกับสภาพอากาศเช่นนี้ไปอีกนานแค่ไหน วันนี้เรามีข้อแนะนำวิธีการรับมือกับฝุ่นได้อย่างยั่งยืนและเริ่มจากตัวเรา เพียงแค่ปลูกต้นไม้ในรั้วบ้าน เพื่อช่วยดักฝุ่นละอองที่มาตามอากาศ

1.ปาล์มไผ่

ช่วยลดปริมาณของคาบอนมอนนอกไซด์ ฟอร์มาดีไฮด์ และเบนซินในอากาศได้ วิธีปลูก ปาล์มไผ่ ปลูกง่าย เพียงใช้ดินร่วนปลูก ผสมกาบมะพร้าวสับ ปุ๋ยคอกหรือปุ่ยอินทรีย์ รดน้ำปานกลาง แสงแดดปานกลางถึงร่มรำไร ปาล์มไผ่ เจริญเติบโตง่าย หากต้องปลูกไว้ในบ้าน ควรจำกัดการเจริญเติบโตด้วยกระถาง เช่น ถ้าต้องการให้ต้นเล็กลง ก็ควรปลูกในกระถางเล็ก
ประโยชน์
– ดูดสารพิษและสิ่งปนเปื้อนในอากาศ
– คายความชื้นสูงเพิ่มความสดชื่นในอากาศ
– ช่วยคลายความเครียด สบายตา เพิ่มความร่มรื่นภายในบ้าน

2.พลูด่าง

เป็นต้นไม้ขนาดเล็ก ที่เราคุ้นเคย เพียงแค่เรานำมาปลูกใส่กระถางเล็กๆตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน ในบ้าน ห้องน้ำ ริมหน้าต่าง ก็จะช่วยลดฝุ่นละอองลงได้ พลูด่างช่วยดูดซับสารฟอร์มาลดีไฮด์ที่ตกค้างตามเฟอร์นิเจอร์ตามพื้นบ้าน รวมถึงดูดซับสปอร์ของเชื้อรา ลดฝุ่น พลูด่างปลูกง่ายๆ ได้2วิธีคือ ปลูกในดินร่วนซุย หรือ ปลูกในน้ำหมั่นเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ

3.เดหลี

ดอกไม้ที่มีสีสันสวยงามใบที่เรียวยาวยังมีประโยชน์ดีงามเหมาะที่จะปลูกไว้ในห้องนอนของเราเลยทีเดียว สามารถดูดสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อาซีโตน ไตรคอไรด์เอทีรีน เบนฺซินและฟอร์มาดิไฮด์ รวมถึง สามารถดูดสารพิษและฝุ่นละอองได้คราวละมากๆอีกด้วย ปลูกด้วยดินร่วน ผสมปุ๋ยคอก กาบมะพร้าวสับ ใส่ปุ๋ยออสโมโค้ทพลัส รดน้ำทุกเย็น หรือทุกเช้า

4.บอสตันเฟิร์น

เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก อยู่ในแสงแดดที่ไม่จัดมาก นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั้งในและนอกอาคาร ได็เป็นอย่างดี ช่วยฟอกอากาศ,ดูดคาร์บอนไดออกไซด์ภายในบ้าน ,อากาศภายในและนอกบ้านเย็นสบายเนื่องจากเฟิร์นเป็นพืชที่ชอบน้ำมาก
ปลูกในดินร่วนระบายน้ำดี ไม่ชอบน้ำขัง ดินร่วนผสมกาบมะพร้าว เศษอิฐหัก ใบไม้ผุๆ ปลุกคลุมดิน ปลูกในกระถางในที่มีแสงแดดรำไร รดน้ำชุ่มตลอดเวลา

5.สาวน้อยปะแป้ง

เป็นไม้ประดับลักษณะพิเศษคือ มีสีขาวอยู่ตรงกลางคล้ายโดนประแป้ง ชอบอยู่ในที่ร่มรำไร ต้องการความชื้นสูง จึงไม่ควรให้ถูกแดดโดยตรง สาวน้อยปะแป้งเป็นไม้ประดับที่ ช่วยฟอกอากาศ ดูดสารพิษต่างๆได้มากเนื่่องจากมีใบที่ใหญ่
 เป็นไม้ที่ปลูกดูแลรักษาง่าย เจริญงอกงามในที่มีแสงแดดรำไร ปลูกในดินร่วนผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ระบายอากาศและระบายน้ำได้ดี ไม่มีน้ำขัง ใช้ปุ๋ยเคมีนานๆครั้งปริมาณน้อยๆหรืออาจใช้ปุ๋ยละลายช้าเพื่อปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่ต้นก็ได้

6.เยอบิร่า

คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก เยอบิราดี ซึ่งอาจจะปลูกในแปลงหรือในกระถาง ตามความชอบของแต่ละคน ส่วนมากมักปลูกเพื่อตัดดอกแทบทั้งสิ้นเพื่อใช้ในงานพิธีต่างๆ เป็นไม้ประดับที่สามารถดูดสารพิษจากอากาศได้ มีอัตราคลายความชื้นสูง
วิธีปลูก ปลูกด้วย ดินร่วน ผสมทราย ขี้เถ้าแกลบ ขุยมะพร้าว การดูแลรักษา ควรให้น้ำปริมาณน้อย 2วันต่อครั้ง ให้ปู่ยเคมีสูตร 16-16-16 สัปดาห์ต่อครั้งหรือจนกว่าจะเกิดดอก

7.ว่านหางจระเข้

เป็นพันธุ์ไม้ที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันกว้างขวางเพราะเป็นพืชสมุนไพรที่ให้ประโยชน์มากมาย ใบมีประสิทธิภาพสูงในการดูดสารพิษในอากาศจำพวกฟอร์มัลดีไฮด์ได้ดีอีกด้วย ว่านหางจระเข้ชอบดินร่วนซุย ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์และใบไม้ผุคลุกเคล้ากัน จะปลูกลงดิน หรือกระถางตามความสะดวก หางจรเข้ชอบแสงแดดจัดช่วงเช้าถึงสิบเอ็ดโมงเท่านั้น รดน้ำวันละ2ครั้ง ให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ระวังอย่ารดจนแฉะเกินไป หมั่นพรวนดินสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยปีละ1-2ครั้ง

ประโยชน์ของต้นไม้ที่นอกเหนือจากการลดฝุ่น กรองอากาศแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมาก เช่น สามารถนำดอกไปใช้ประโยชน์ในงานพิธีต่างๆ ปลูกเพื่อสร้างรายได้ตัดดอกขายเป็นอาชีพได้ บางชนิดใช้ใบปรุงอาหารและเป็นยาสมุนไพร ไม่ว่าต้นไม้ชนิดไหน ก็ล้วนมีประโยชน์ม ทั้งต้นไม้ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สีเขียวของต้นไม้ ใบไม้ สีสันที่สวยงามของดอก ทำให้รู้สึกสบายตา ทำให้บ้านดูร่มรื่น คลายร้อน ผ่อนคลายและ อากาศสดชื่นขึ้นจากเครื่องกรองธรรมชาติที่หาได้ใกล้ๆตัว