สำหรับสาวก ลิเวอร์พูล ทั้งหลายน่าจะพอทราบกันว่า นักเตะที่มักจะถูก “เด็กหงส์” นำมาเป็นประเด็นตอบโต้กันไปมาผ่านโลกโซเชียลมากที่สุดตอนนี้ก็คือ
“จอร์แดน เฮนเดอร์สัน”
ไม่เฉพาะแค่ “เด็กหงส์” ในเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสาวกหงส์แดงในต่างประเทศด้วย ที่มักจะลากตัว กัปตัน เฮนโด้ มาพิพากษา
ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา เฮนเดอร์สัน เป็นนักเตะที่ตกเป็นจำเลยเกือบทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามที่ทีมรักของตนเล่นไม่ได้ดั่งใจ หรือในวันที่ทีมต้องเป็นฝ่ายปราชัย
สำหรับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในความรู้สึกของแฟนบอล ลิเวอร์พูล แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย
ฝ่ายที่ ชอบ บอกว่า เฮนเดอร์สัน คือมิดฟิลด์ประเภท “ปิดทองหลังพระ” ที่สร้างสมดุลย์ให้กับทีม คอยคุมจังหวะเกมด้วยการถ่ายบอล ออกซ้าย ออกขวา อย่างแม่นยำ ถึงลีลาการเล่นจะไม่หวือหวา แต่เขาก็เล่นอย่างมีวินัย เล่นตามที่โค้ชสั่งได้อย่างดีเยี่ยม
ที่สำคัญคือ ในจังหวะที่ทีมกำลังเพลี่ยงพล้ำจากการโดนคู่ต่อสู้สวนกลับ ก่อนที่บอลจะทะลุไปถึงกองหลัง เขามักจะเป็นคนแรกที่เข้ามาดีเลย์เกมของคู่แข่งให้ก่อนอยู่เสมอ
ส่วนฝ่ายที่ ไม่ชอบ กลับมองอีกมุมหนึ่งว่า นักเตะแบบ เฮนเดอร์สัน เป็นนักเตะที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ เป็นถึงกัปตันทีมแท้ๆ แต่ไม่เห็นจะมีอะไรเด่นซักอย่าง เกมรุก ก็ไม่ดี เกมรับ ก็งั้นๆ
“อาแปะ” แห่งหงส์แดง
โดยเฉพาะวิธีการเล่นของ เฮนเดอร์สัน ที่เรามักจะเห็นเขาส่งบอลง่ายๆ สั้นๆ ให้กับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆ หรือไม่ก็ส่งบอลกลับคืนหลัง จนทำให้ เฮนเดอร์สัน ถูกตั้งฉายาจากแฟนบอลกลุ่มนี้ว่า “อาแปะ”
เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลายเป็นนักเตะที่แฟน ลิเวอร์พูล ทั้งชอบ และ ทั้งชัง เขาจึงมักถูกเหล่าบรรดา “เด็กหงส์” ทั้งหลายยกขึ้นมาเป็นประเด็นในการถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนเกือบทุกสัปดาห์ที่ทีมลงเตะ
แม้กระทั่งในสัปดาห์ที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะคู่แข่งด้วยฟอร์มอันงดงาม หากเกมนั้นเป็นเกมที่ เฮนเดอร์สัน ลงสนามด้วย เขาก็ไม่วายที่จะโดนแฟนบอลที่ไม่ชอบ ตามมาแขวะ ตามมาแซะ อีกอยู่ดี
ไม่ว่าจะเป็นการนำ เฮนเดอร์สัน ไปเปรียบเทียบกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งต้องบอกว่า นี่เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน ก็คงไม่สามารถเทียบกับสิ่งที่ เจอร์ราร์ด เคยสร้างไว้ให้กับทีมอยู่แล้ว
เฮนโด้ แบกภาระอันหนักอึ้ง ด้วยการเป็นกัปตันทีมต่อจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด
Something about Jordan Henderson
หลายคนอาจจะบอกว่า แต่ดูยังไง นักเตะฝีเท้าธรรมดาๆ แบบ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็ไม่คู่ควรกับการเป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล อยู่ดี
สำหรับใครที่คิดแบบนี้ คงต้องถามกลับไปว่า ถ้า เฮนเดอร์สัน ไม่คู่ควรกับการเป็นกัปตันทีมจริงๆ แล้วทำไมผู้จัดการทีมระดับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงไม่ปลดเขาออกจากตำแหน่ง !!
ซึ่งส่วนตัวคิดว่า เหตุผลที่ คล็อปป์ ยังคงไว้วางใจให้ เฮนเดอร์สัน สวมปลอกแขนกัปตันทีมต่อไป เพราะ คล็อปป์ ไม่ได้วัดคุณค่าในตัว เฮนเดอร์สัน จากทักษะ, ลีลาการเล่น หรือจำนวนประตูที่ทำได้
แต่ คล็อปป์ น่าจะเห็นคุณสมบัติอย่างอื่นที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือ “ความเป็นผู้นำ” ที่มีอยู่ในตัวของ เฮนเดอร์สัน ถ้าไม่เช่นนั้น คล็อปป์ คงจะรีบยกตำแหน่งกัปตันทีมให้กับ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ไปแล้ว ในฐานะที่เป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลก่อน
และหากใครชมเกมที่ ลิเวอร์พูล ลงเตะด้วยความช่างสังเกตซักนิด เรามักจะเห็น เฮนเดอร์สัน เป็นคนที่คอยตะโกนสั่งลูกทีมอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ท่านรองอย่าง เจมส์ มิลเลอร์ ที่อาวุโสที่สุดในทีม รวมไปถึง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่หลายคนอยากให้เป็นกัปตันทีมคนต่อไป ก็ยังเคยโดน เฮนเดอร์สัน ตะโกนด่าในสนามมาแล้ว!
ประเด็นถัดมาที่เหล่า แฟนหงส์ ถกเถียงกันอย่างดุเดือดก็คือ ระหว่าง เฮนโด้ กับ เกอิต้า ใครดีกว่ากัน?
สำหรับประเด็นนี้ ส่วนตัวคิดว่า เราจะเอานักเตะที่เล่นคนละตำแหน่งมาเปรียบเทียบกันว่าใครดีกว่าใครไม่ได้ แต่จะต้องมองในภาพใหญ่กว่านั้น ซึ่งก็คือ เรื่องของ แท็คทิค
อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่า เฮนเดอร์สัน ถูกวางให้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ที่ยืนต่ำที่สุด และสิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ มอบหมายให้เขาทำก็คือ คอยคุมจังหวะเกม โดยยืนปักหลักถ่ายบอล ออกซ้าย ออกขวา อยู่หน้ากองหลัง
และที่สำคัญที่สุดก็คือ ด้วยตำแหน่งที่ เฮนเดอร์สัน ประจำการอยู่นั้น เป็นตำแหน่งที่พลาดเสียบอลให้กับคู่แข่งไม่ได้ เพราะถ้าพลาดนั่นหมายถึงเกมของคู่ต่อสู้จะทะลุถึงหน้าปากประตูทันที
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ กัปตัน เฮนโด้ ต้องพยายามเล่นทุกช็อตด้วยความแม่นยำและแน่นอนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลายครั้งเขาจึงเลือกที่จะเล่นง่ายเข้าไว้ เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น
มาดผู้นำของ เฮนเดอร์สัน ในยามที่ได้ลงสนาม
ในขณะที่ นาบี้ เกอิต้า ตามตำแหน่งแล้วเขาคือมิดฟิลด์เบอร์ 8 ที่คอยเชื่อมเกมระหว่างแดนกลางและแดนหน้า ซึ่งจะมีบทบาทในการเล่นเกมรุกมากกว่า เฮนโด้
ซึ่งถ้ามองกันผิวเผินแค่นี้ แน่นอนว่าแฟนบอลทั่วไปก็ต้องชอบ เกอิต้า ที่มีลีลาการเล่นหวือหวากว่าอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นนักเตะที่สามารถ กระชาก ลากเลื้อย พาบอลขึ้นไปเล่นร่วมกับสามประสานอย่าง มาเน่, ฟีร์มิโน่ และ ซาล่าห์ ในแนวรุกได้
หากสังเกตจากช่วง 7-8 นัดแรกที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า เฮนโด้ จะถูกส่งลงสนามในเกมที่ คล็อปป์ ต้องการให้ทีมมีความสมดุลย์ในเกมรุก-เกมรับ
เล่นอย่างมีกลยุทธ์ สไตล์คล็อปป์
พูดอีกอย่างก็คือ หากเป็นเกมที่ คล็อปป์ อยากได้ทีมที่เล่นด้วยความรัดกุม เฮนเดอร์สัน จะถูกเลือกให้ลงสนามเป็น 11 คนแรกทันที
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดเลยก็คือแมทช์ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมแกร่งอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นัดนี้ คล็อปป์ เลือกที่จะส่ง เฮนโด้ ลงเป็นตัวจริงพร้อมกับ ไวจ์นัลดุม และ มิลเนอร์ เพราะต้องการมิดฟิลด์สไตล์ “ผึ้งงาน” ให้มาช่วยกัน ไล่บี้ ไล่อัด คู่แข่งนั่นเอง
แต่ถ้านัดไหนที่ คล็อปป์ ต้องการให้มิดฟิลด์มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากขึ้น เพื่อเจาะคู่ต่อสู้ที่มาตั้งรับลึก เกอิต้า จะถูกส่งลงสนามในเกมนั้น ตัวอย่างก็คือ นัดเปิดสนามที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮม ไป 4-0
อาจเป็นเพราะ เฮนเดอร์สัน ยังไม่ฟิตเต็มร้อยด้วย ทำให้ เกอิต้า ถูกส่งลงสนามมาเป็นตัวจริงในเกมนี้ และมีส่วนช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่เขาลากบอลกว่าครี่งสนามไปถึงกรอบเขตโทษ ก่อนจะแทงต่อให้ โรเบิร์ตสัน ปาดเข้ากลางให้ ซาล่าห์ ยิงเข้าประตูไป
รวมไปถึงนัดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปแบ่งแต้มจาก เชลซี ที่ แสตมฟอร์ด บริดจ์ เกมนี้ เฮนเดอร์สัน ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแผงมิดฟิลด์ร่วมกับ มิลเนอร์ และ ไวจ์นัลดุม อีกเช่นเคย
ก่อนที่ เกอิต้า จะถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน เฮนโด้ ช่วงท้ายครึ่งหลัง ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่ทีมต้องเร่งเครื่องเต็มที่เพื่อทวงประตูตีเสมอ โดยถอย ไวจ์นัลดุม ลงมาเล่นในตำแหน่งของ เฮนโด้ แล้วให้ เกอิต้า เติมเกมบุกขึ้นไปเพื่อเจาะเกมรับของเชลซีที่ลงไปตั้งรับในแดนตัวเอง
เมื่อเป็นเช่นนั้น หมายความว่า ทั้ง เฮนโด้ และ เกอิต้า ต่างมี จุดดี จุดแข็ง ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเหมาะกับแท็คทิคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มากกว่ากันในแต่ละเกม
เกอิต้า และ เฮนเดอร์สัน สองนักเตะที่แฟนหงส์เถียงกันว่าใครดีกว่ากัน?
“คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน”
ทั้งหลายทั้งปวงที่ร่ายมา ไม่ได้หมายความว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นสุดยอดนักเตะที่ใครจะแตะต้อง หรือ วิพากษ์วิจารณ์ ไม่ได้
แต่เท่าที่ดูจาก คำครหาต่างๆ ที่ตอบโต้กันไปมาระหว่างสาวกหงส์แดงด้วยกันเอง ส่วนใหญ่แล้วเป็น “คำพิพากษา” ที่ไม่ค่อยยุติธรรมสำหรับ เฮนเดอร์สัน ซักเท่าไร่
ก็เหมือนกับประโยคหนึ่งที่เราได้ยินกันอยู่เสมอๆ ว่า “คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน”
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ปรากฎในสนามจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่า เฮนเดอร์สัน เหมาะสมกับการเป็นนักเตะลิเวอร์พูลหรือไม่? ดีพอจะเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูลหรือเปล่า?
ยิ่งตอนที่ ลิเวอร์พูล มีนักเตะคุณภาพล้นทีมแบบนี้ด้วยแล้ว ถ้าวันไหน เฮนเดอร์สัน เกิด ฟอร์มตก หรือ เล่นห่วยแตก แบบรับไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ กุนซือระดับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องมองออก และเขาจะเป็นคนที่ลุกขึ้นมาจัดการกับเรื่องนี้เอง
ไม่ต้องมาเดือดร้อนให้แฟนบอล พิมพ์ด่า พิมพ์ไล่ กันตามโชเชียลแบบนี้หรอก
อย่าพิมพ์เยอะ เดี๋ยวเจ็บนิ้ว …เชื่อสิ!!!
เครดิตภาพ : www.ibtimes.co.uk , www.thesun.co.uk , starspost.com
Copyright© Bsite.In