- Family
เด็กยุคใหม่กับภาวะสมาธิสั้น พ่อแม่รับมือยังไงในโลกที่ทุกอย่างเกิดขึ้นไวไปหมด
By DiamondP • on Jan 27, 2023 • 1,012 Views
ในยุคนี้ที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต บวกกับการที่พ่อแม่มีภาระหน้าที่เข้ามาช่วงชิงเวลาจนทำให้บางครั้งพวกเขาผลักภาระการเลี้ยงดูลูกให้กับเทคโนโลยี ทำให้นี่กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กยุคใหม่มีภาวะสมาธิสั้นมากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่ปัญหาด้านพัฒนาการและสมอง แต่ใช่ว่าเรื่องเหล่านี้จะแก้ไขไม่ได้ เพียงแค่มันต้องอาศัยความอดทน ระยะเวลา และความทุ่มเทอย่างมาก
สิ่งแรกที่พ่อแม่ที่มีลูกมีภาวะสมาธิสั้น หรือสมาธิบกพร่องต้องรู้ก่อนเลยก็คือ การที่เด็กเป็นแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของพวกเขา พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะซน หรือแกล้งจะไม่เชื่อฟัง ทั้งหมดมันเกิดจากอาการผิดปกติทางสมอง ทำให้ความสามารถในการควบคุมตัวเองของพวกเขาลดน้อยลงไป หากปราศจากความเข้าใจในตรงนี้ แล้วโต้ตอบเด็ก ๆ กลับไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด เด็กก็จะโต้ตอบกลับมาด้วยอารมณ์ที่รุนแรงไม่แพ้กัน มันจะนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าว และการใช้ความรุนแรงที่มากขึ้นได้
ต่อมาก็คือ การกำหนดกิจกรรมในการใช้ชีวิตของเด็ก ๆ โดยเฉพาะการให้เด็กอยู่กับหน้าจอตลอดเวลานั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับเด็กก่อนวัย 2 ขวบ แล้วถึงจะมากกว่านั้น ก็ควรจำกัดเวลาการเล่น มีการตกลงให้ชัดเจนถึงระยะเวลาที่เหมาะสม อาจจะใช้การตั้งเวลาผ่านนาฬิกาที่แสดงให้เด็ก ๆ เห็นชัด ๆ จะทำให้พวกเขาสามารถรับรู้ถึงเวลาได้ง่ายมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น การคัดเลือกกิจกรรมที่จะให้เด็กเล่นเองก็สำคัญ ลองเปลี่ยนเป็นกิจกรรมที่ใช้เวลานานขึ้น แต่สร้างความแปลกใหม่ได้เสมอ เช่น การต่อจิ๊กซอว์ หรือการต่อตัวต่อ เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์จดจ่อกับสิ่งที่อยู๋ตรงหน้ามากขึ้น
อีกหนึ่งอย่างที่พ่อและแม่ควรจะต้องทำก็คือ การหมั่นแสดงความชื่นชมและให้รางวัลอยู่เสมอ แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่การกระตุ้นด้วยความรู้สึกดี ๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้เด็ก ๆ กระตือรือร้นอยากจะทำสิ่งที่ทำอยู่มากขึ้น และการให้รางวัลก็ควรจะเป็นการให้ในทันที ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะชื่นชมจนปล่อยปะละเลยเมื่อเด็กทำผิด เพียงแต่อาจจะต้องเริ่มด้วยการลงโทษที่ไม่หนักก่อน เช่น การงดให้รางวัล หรือการนั่งสงบสติอารมณ์ตรงมุมห้อง เป็นต้น และการลงโทษควรเริ่มต้นหลังจากผ่านการฝึกสมาธิไปสักระยะแล้ว
การเปลี่ยนสภาวะแวดล้อมให้ลูกเองก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกัน การฝึกให้พวกเขาอยู่ในสภาวะที่มีสิ่งเร้าไม่มาก เช่น ห้องที่ได้รับการจัดอย่างเป็นระเบียบ ไม่ตกแต่งด้วยลวดลายที่ฉูดฉาด ไม่มีเสียงโทรทัศน์รบกวน ลดการพาไปเที่ยวศูนย์การค้า รวมถึงการพูดคุยกับพวกเขาด้วยเสียงที่ไม่ดัง และที่สำคัญคือพ่อกับแม่ไม่ควรทะเลาะหรือใช้ความรุนแรงต่อหน้าลูกด้วย อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงวิธีที่สามารถเริ่มทำได้ด้วยตัวเอง แต่กระบวนการรักษาทั้งหมดควรอยู่ภายใต้ความคิดเห็นของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน