- Tech
iPad Air กับชิปเซ็ต M1 เมื่อ Apple ประกาศก้องตลาดแท็บเล็ตว่า งานนี้ฉันไม่ได้มาเล่น ๆ
By DiamondP • on Mar 09, 2022 • 798 Views
วงการแท็บเล็ตจะต้องสั่นสะเทือน เพราะล่าสุด Apple ได้ประกาศจำหน่าย iPad Air รุ่นใหม่ ที่คราวนี้ใส่หนักใส่เต็ม ไม่ยั้งมือ ยกระดับแท็บเล็ตขนาดพกพาของตัวเองให้เทียบชั้น iPad Pro ได้แบบไม่ทิ้งห่างกันมาก พร้อมกับมาด้วยราคาไม่แรงจนเหนือจริง อย่ารีรอให้เสียเวลา ไปดูกันเลยว่ารอบนี้พวกเขาใส่อะไรมาบ้าง
ชิป M1 แบบเดียวกับ iPhone 13 ก้าวมาสู่ iPad Air
ฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้นกับการที่ iPad Air รุ่นใหม่นี้จะได้ชิปเซ็ตเรือธงของ Apple มาด้วย นั่นคือชิป M1 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPhone ที่จะทำให้ไอแพดรุ่นนี้สามารถประมวลผลได้แบบก้าวกระโดด แถมยังสามารถประหยัดพลังงานได้ดีกว่าเดิมด้วย งานนี้ใครได้มาครอบครองสามารถทำได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่การตัดต่อวิดีโอระดับ 4K ไปจนถึงเล่นเกมกราฟฟิกหนัก ๆ, ออกแบบห้องในรูปแบบ 3 มิติ หรือใช้ระบบ AR ที่สมจริงยิ่งกว่าเดิมด้วย เพราะแอปเปิ้ลเคลมมาว่าถ้าเทียบกับรุ่นก่อน รุ่นนี้แรงกว่าถึง 2 เท่า!
กล้องหน้าความละเอียด 12MP พร้อมฟังก์ชั่น จัดให้อยู่ตรงกลาง
ตัวกล้องเองแอปเปิ้ลก็เพิ่มความสามารถเข้าไปด้วย กับความละเอียดของกล้องที่ 12MP มาในรูปแบบอัลตร้าไวด์ งานนี้วางใจเรื่องการถ่ายภาพและวิดีโอระดับ 4K ได้เลย ยิ่งการตัดต่อ หรือแชร์ ก็เหมือนคุณพกสตูดิโอที่แสนจะครบเครื่องไปไว้กับตัว ไม่เพียงเท่านั้น ฟังก์ชั่นเด่นของกล้องใหม่ที่ทำมาตอบโจทย์ยุคสมัยที่การวีดีโอคอลคือการสื่อสารสามัญก็คือ การจัดภาพให้อยู่ตรงกลาง โดยกล้องจะคอยเลื่อนและจับภาพผู้ใช้ให้อยู่ตรงกลางเสมอ
เชื่อมต่อแรงกว่าเดิม 2 เท่า
ไม่เพียงแค่ระบบประมวลผลที่แรงกว่ารุ่นก่อนหน้า 2 เท่า แต่ยังมีระบบการเชื่อมต่อที่แรงกว่าเดิม 2 เท่าด้วย! เพราะ iPad Air รุ่นนี้ ใช้พอร์ต USB-C ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 10Gb ต่อวินาที แถมรุ่นนี้ยังรองรับระบบ 5G ด้วยนะเอ้อ!
จอดีไซน์ใหม่ไฉไลกว่าเดิมเยอะ
iPad Air รอบนี้มาด้วยสีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้าแบบใหม่สุดว้าว กับขนาดจอ 10.9 นิ้ว แบบ Liquid Retina เคลือบสารกันแสงสะท้อน และเคลือบหน้าจอแบบป้องกันแสงสะท้อนด้วย ส่วนลำโพงมาแบบสเตอริโอแนวนอน และ Touch ID จะเป็นส่วนหนึ่งของปุ่มด้านบน
อุปกรณ์เสริมและฟังก์ชั่นอื่น ๆ
รอบนี้พวกเขามาพร้อมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ที่จะทำให้การจรดปลายปากกาแม่นยำยิ่งกว่าเก่า ความหน่วงแทบจะหายไป แถม iPad Air รุ่นนี้ยังใช้ได้กับ Magic Keyboard ด้วย พร้อมกับ Smart Keyboard Folio ที่ดีไซน์มาในหลากหลายสีสัน เข้ากับตัวเครื่อง ทั้งสีดำ สีขาว สีส้มอิเล็คทริค สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีมารีนบลู และความพิเศษเหนือชั้นก็คือ พวกเขามาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iPadOS 15.4 และ macOS 12.3 (ที่จะเปิดเผยตามมา) ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้เจ้า Apple Pencil ผ่านทั้ง iPad และ Mac ได้แบบไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ แค่ลากผ่านเหมือนเป็นอุปกรณ์เครื่องเดียวกัน ก็สามารถใช้งานได้เลย
นอกจากนี้แล้วยังมีฟังก์ชั่นเด็ด ๆ อีกเพียบเลย ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเข้าเว็บไซต์ www.apple.com ได้เลยจ้า
ราคาที่(แทบ)ไม่เปลี่ยนแปลง
สิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือ ราคา ที่ขอบอกเลยว่ารอบนี้เซอร์ไพร์สพอสมควร เพราะเราได้เห็นการยกระดับฟังก์ชั่นขนาดนี้แล้ว คงจะคิดว่าราคาจะทะลุทะลวงไส้ แต่งานนี้ Apple จัดราคามาแบบน่ารักน่าหยิก iPad Air รุ่นใหม่นี้จะมีราคาแทบจะเท่ากับรุ่นเดิมเลยนั่นเอง
โดย iPad Air รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท iPad Air ใหม่ รุ่นความจุ 64GB และ 256GB มาในสีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้า
ในขณะที่ราคาสำหรับน้อง ๆ นิสิตนักศึกษานั้นจะมีราคาเริ่มต้นที่ 19,200 บาท Apple Pencil รุ่นที่ 2 มีวางจำหน่ายในราคา 4,190 บาท, Smart Keyboard Folio มีวางจำหน่ายในราคา 5,300 บาท และ Magic Keyboard มีวางจำหน่ายในราคา 9,300 บาทเท่านั้น ปังสุดอะไรสุด!
ข้อมูลจาก : Apple เปิดตัว iPad Air ที่ทรงพลังและอเนกประสงค์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – Apple (TH)
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน