Wake up เริ่มจากรู้สึกตัวตั้งแต่ตื่นนอนเลยแล้วกัน อย่างแรกเลยดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วเพื่อการขับถ่ายที่ดี จากนั้นก็จัดเตียงนอนให้เรียบร้อย เสร็จ step แรกเป็นอันลุกจากเตียงได้
Yoga the morning ขั้นตอนนี้ถือเป็นการยืดตัวหลังตื่นนอนเบาๆ ใช้เวลาแค่ 1-3 นาที ยืดตัวพอให้รู้สึกสดชื่นพร้อมรับเช้าวันใหม่
Wash your face สาวๆ อย่างเราจะล้างหน้าปกติไม่ได้เพราะสมัยนี้เค้ามีเครื่องล้างหน้าที่ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึกมาเป็นผู้ช่วย และในท้องตลาดบ้านเราก็มีหลากหลายแบรนด์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น Foreo luna ที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ เจ้าเครื่องนี้เค้าใช้งานง่าย เป็นซิลิโคนชนิดพิเศษที่โดนน้ำแล้วเชื้อราไม่ขึ้น แถมการชาร์จ 1 ครั้งสามารถใช้งานได้นานถึง 5 เดือน วิธีใช้งานนั้นก็ง่ายๆ เลยเพียงกดเปิดเครื่องแล้วนำมาถูที่ผิวหน้าแทนการใช้มือสัมผัสโดยตรงใช้เวลาเพียง 1 นาที (เครื่องสามารถปรับระดับความสั่นได้ 8 รับ) จากนั้นให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็นที่จะช่วยกระชับผิวเป็นอันเสร็จขั้นตอนค่ะ
Take a shower and wash your hair อันนี้ก็ปกติเช่นกันแต่ผู้หญิงเราจะใช้จะอาบน้ำอุ่นสลับการน้ำเย็น หลังอาบน้ำเสร็จในขณะที่ตัวยังเปียกหมาดเราก็จะทา baby oil หรือ organic oil เพื่อล็อคความชุ่มชื่นของผิว
Put on a face mask ขั้นตอนนี้อาจจะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่ถ้าวันไหนตื่นมาหน้าแห้งก็อาจจะต้องใช้การมาส์กเข้าช่วย เพราะถ้าผิวสาวๆ แห้งแล้วล่ะก็วันนั้น makeup จะพังไปเลยจ้า
Do your skincare routine ขั้นตอนนี้ความนานจะขึ้นอยู่กับปริมาณสกินแคร์ของแต่ละคน โดยปกติแล้วก็จะเริ่มด้วยการลงโทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดผิว ตามด้วยเซรั่ม (ซึ่งอาจจะมีหลายตัวที่เข้ามาช่วยเสริมตามสภาพผิวของแต่ละคน) ต่อด้วยอายครีม ที่ลืมไม่ได้โดยเด็ดขาดเพราะเราต้องรักษาดวงตาให้ใส่ปิ๊ง จากนั้นก็ทามอยเจอร์ไรเซอร์ ปิดท้ายด้วยครีมกันแดดตัวสุดท้ายเป็นการปกป้องผิวจากแสงแดดอันร้อนของบ้านเรา
Try on a new look or make up ขั้นตอนนี้ถือเป็นงานศิลปะสำหรับสาวๆ เลยก็ว่าได้ เพราะในแต่ละวันเราอาจจะไม่ได้แต่งหน้าเหมือนกันทุกวัน เพราะในโหมดของเครื่องสำอางที่เราเลือกใช้ในแต่ละวันนั้นสไตล์การแต่งหน้าและโทนสีจะขึ้นอยู่กับ ชุดที่ใส่ สถานที่ และอารามณ์ (ในที่นี้เราจะขอข้ามวิธีแต่งหน้าไปเลยแล้วกัน…แต่ไว้เจอกันใน content for make up only นะคะ)
Short-sighted person ข้อนี้ Specialtyมากๆ สำหรับสาวสายตาสั้นถ้าใส่แว่นก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ แต่ถ้าหากใส่คอนแทคเลนส์แล้วล่ะก็อาจจะเสียเวลาตรงนี้นิดหน่อย และที่สำคัญต้องจำวันหมดอายุของคอนแทคเลนส์รายเดือนให้ดีด้วยนะคะ
Make a body charming ไม่ลืมที่จะทาโลชั่นบำรุงผิวตัว และทาครีมกันแดดที่ตัวด้วยเช่นกัน แต่ไม่พอแค่นั้นเราต้องเพิ่มเสน่ห์ด้วยการฉีดน้ำหอมที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของตัวเองหรือกลิ่นประจำตัวของเรานั้นเองค่ะ
Get your hair done ขั้นตอนนี้อาจจะไดร์ผมให้อยู่ทรงเบาๆ สำหรับที่คนไม่มีเวลามากนัก แต่ถ้ามีเวลาแล้วล่ะก็สาวๆ อย่างเราจัดเต็มแน่นอน จัดทั้งหนีบผมให้ตรง หรือม้วนเป็นลอนให้ดูสวยหวานแบบสาวเกาหลี ถ้ายังไม่พอใจก็อาจหาเครื่องประดับพวกกิ๊ฟ ที่คาดผม หรือหมวก ในส่วนนี้ก็จัดแต่งทรงกันตามความสะดวกของแต่ละคนเลยค่ะ เพราะบางคนอาจไม่ทำผมเลยก็มีจริงไหมคะ
Select the accessories สาวๆ บางคนจะรู้สึกโป๊ถ้าไม่ได้ใส่เครื่องประดับเพราะเราจะรู้สึกตัวโล่งๆ การหาต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ หรือนาฬิกามาใส่นั้นก็ต้องเข้ากับชุดและการแต่งหน้าในวันนั้นๆ ด้วย
Check the phone or something news เป็นกิจวัตรที่ขาดไม่ได้จริงๆ คือตื่นนอนมาแล้วต้องรีบเช็คข้อความก่อนเลย อ่านอีเมล์ และอัพเดทข่าวสารประจำวันไม่งั้นเดี๋ยวคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องนะ
Make a breakfast อาจจะหาอะไรทานง่ายๆ เช่น พวกเครื่องดื่ม โกโก้ กาแฟ หรือชา พร้อมขนมปังเบาๆ ในตอนเช้าเพราะอาหารเช้านั้นสำคัญ แต่สำหรับสาวที่กินคลีน หรือคีโตเจนิคไอเดทก็จะมีต้องใช้เวลาเตรียมอาหารนานหน่อย แต่ส่วนใหญ่ขั้นตอนนี้จะรวบรัดมาทานที่ออฟฟิศทีเดียว (เพราะถนนท้องบ้านเรามัน traffic jam มากกกกกกก กอ ไก่ล้านตัวไปเลยจ้ะแม่)
Take vitamins สาวๆ อย่างเราไม่ใช่แค่ดูแลตัวเองแค่ภายนอกนะคะ ภายในเราก็ดูแลดีไม่ต่างกันเลย ใน 1 วันเนียมีวิตามินที่ประจำต่อร่างกายสาวๆ หลายอย่าง เช่น vitamin c (กินหลังอาหารเช้าทันทีจะช่วยให้ดูดซึมดียิ่งช่วงเวลา 9-10 โมงจะเป็นช่วงเวลาที่ดูดซึมดีที่สุด) zinc ก็ช่วยลดสิวอุดตัน บำรุงเล็บ บำรุงเส้นผม grape seed ช่วยเรื่องการมองเห็นและบำรุงให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งกินคู่กับ vitamin c จะดีมาก collagen สำหรับสาวๆ แล้วคอลลาเจนนี่ขาดไม่ได้เลยเรื่องผิวพรรณนั้นสำคัญมากควรรีบดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ และก็พวกวิตามินบีรวมก็ดีนะ ช่วยบำรุงสมองและร่างกายที่เหนื่อยล้า
Alain Wertheimer, CEO of Chanel กล่าวถึงเขาว่า ขอบคุณความคิดสร้างสรรค์อันอัจฉริยะของเขา ช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเราเขาคือบุคคลสำคัญที่มีส่วนทำให้ House of Chanel ประสบความสำเร็จในระดับโลก การสูญเสียวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่เราได้สูญเสียเพื่อนไป แต่เราได้สูญเสียนักสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุคไปแล้ว
ด้าน Bruno Pavlovsky, President of Fashion at Chanel กล่าวเสริมว่า จากแฟชั่นโชว์หนึ่งไปสู่แฟชั่นโชว์หนึ่ง จากคอลเลคชั่นหนึ่งไปสู่คอลเลคชั่นหนึ่ง Karl Lagerfeld ใส่ร่องรอยของตัวเองบนงานแห่งตำนานของ Gabrielle Chanel และสร้างประวัติศาสตร์ให้กับ House of CHANEL เอาไว้มากมาย สิ่งที่เราจะทำเพื่อเชิดชูบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ได้ในวันนี้ก็คือตามรอยเท้าของเขาไป ดั่งที่ Karl เคยกล่าวไว้ว่า “จงโอบกอดปัจจุบันและสร้างสรรค์อนาคตอย่างไม่หยุดยั้ง”
ส่วนผู้ที่จะสานต่องานของเขา The House of Chanel ยืนยันว่า Virginie Viard, Director of Chanel’s Fashion Creation Studio ผู้ซึ่งทำงานใกล้ชิดร่วมกับ Lagerfeld มากว่า 30 ปี จะเข้ามาช่วยตรงนี้ รวมทั้งมอบหมายงานให้กับ Alain Wertheimer เพื่อสร้างงานคอลเลคชั่นต่างๆ ต่อไป ดังนั้น อยากให้ทุกคนวางใจได้ว่าผลงานตำนานทั้งของ Gabrielle Chanel และ Karl Lagerfeld จะยังคงอยู่ต่อไป
“Never use the word ‘cheap’. Today everybody can look chic in inexpensive clothes (the rich buy them too). There is good clothing design on every level today. You can be the chicest thing in the world in a T-shirt and jeans — it’s up to you.”
“When I did H&M everyone said don’t do it and it worked. When I took over Chanel everyone said to me don’t do it, it’s dead, it doesn’t work, it worked. So I better not listen to people and follow my instincts.”
“Buy what you don’t have yet, or what you really want, which can be mixed with what you already own. Buy only because something excites you, not just for the simple act of shopping.”
“Fashion is a language that creates itself in clothes to interpret reality… it does not have to prove that it is serious. It is the proof that intelligent frivolity can be something creative and positive… [because], like poetry, fashion does not state anything. It merely suggests.”
กระแสตอบรับในฝีมือยังมีไม่หยุดยั้ง ปี 1982 Alain Wertheimer ประธานบริหารของ Chanel ได้มาทาบทามให้เป็นดีไซเนอร์ของแบรนด์ Lagerfeld เคยให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่าทำไมถึงรับตำแหน่งนี้ “ใครๆ ก็บอกว่ามันน่ากลัว ใครมาอยู่ตรงนี้ต้องแย่และจะกลับมาใหม่ยาก แต่ผมว่ามันท้าทายดีออกนะ” และคาร์ลบอกกับนิตยสาร Marie Claire ว่า “อะไรที่ผมออกแบบ โคโค่คงไม่ชอบ แต่แบรนด์ก็เป็นแค่สัญลักษณ์ ผมต้องมาอัพเดทให้มันมีอะไรใหม่ๆ ผมทำในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำไว้ ผมต้องทำสิ่งที่เป็นตัวเอง ผมต้องเอาตัวเองออกมาจากสิ่งที่ชาเนลจะเป็นหรือควรจะเป็น ต้องเป็นอะไรที่ต่างออกไป” เขาทำให้ผ้าทวีด, ไข่มุก, รองเท้าทูโทน และโลโก้ C ไขว้เป็นที่ฮิตฮอตและจดจำได้
นอกจากเขาเป็นดีไซเนอร์ยอดฝีมือให้กับแบรนด์ดังๆ หลายแบรนด์แล้ว ในปี 1984 คาร์ลได้เปิดห้องเสื้อในชื่อของตัวเอง Karl Lagerfeld ต่อมา ในปี 2005 เขาได้ขายกิจการให้กับ Tommy Hilfiger Group แต่ยังคงดูแลและเป็นหัวหน้าครีเอทีฟดีไซเนอร์
Planujecie weekendowe zakupy? Koniecznie wpadajcie do naszego salonu w Złotych Tarasach i sprawdźcie Levi’s® Print Bar! Skorzystajcie z niepowtarzalnej szansy na stworzenie personalizowanego t-shirtu. Czekamy na Was!
ทั้งนี้ Bsite.In จะพาคุณชมนิทรรศการทางศิลปะที่มีกระเป๋าไอโคนิค อย่าง Lady Dior เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นต่างๆ ภายใต้ชื่องานนิทรรศการว่า Lady Dior As Seen By
กระเป๋า Lady Dior ที่มีการนำผงแม่เหล็กมาผสมผสานเป็นงานศิลปะ ที่ต้องการสื่อถึงความสวยงามและตวามแข็งแกร่งของเหล็กไปพร้อมกัน
กระเป๋า Lady Dior ที่มีแนวคิดนำหลอดไฟนีออนที่เป็นเครื่องดักยุงมาผสมผสานใส่ในกระเป๋าสุดหรู สื่อถึงการใช้ชีวิตเรียบง่ายที่มียุงมีแมลง แต่มีความหรูหราของกระเป๋ามาผสมผสานได้อย่างลงตัว ชื่อผลงานว่า Iron, Neon Light
กระเป๋า Lady Dior สีเขียวที่ศิลปินต้องการสื่อถึงธรรมชาติและพันธุ์ไม้ โดยที่มีการใช้พวงกุญแจเป็นรูปเมล็ดพันธุ์ เพื่อสื่อถึงการเติบโตไม่มีที่สุดสุดของแบรนด์
ผงอิฐ ที่ถูกนำมาปั้นเป็นรูปทรงกระเป๋า Lady Dior เน้นลาย Cannage อันเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นสำคัญของกระเป๋ารุ่นนี้
ไม่น่าเชื่อว่ากระเป๋าที่ดูอ่อนนุ่มใบนี้แมททีเรียลคือ ซีเมนต์ แต่ก็ผสมผสานทั้งเหล็กและแก้วด้วย เป็นไอเดียที่ต้องการทำให้กระเป๋าดูเหมือนโครงสร้างตึก มีความคอนทราสต์ที่ศิลปินต้องการนำมาสื่อถึงกระเป๋า Lady Dior ที่มีทั้งความเปราะบางของกระจก สวยงามอ่อนหวาน และเข้มแข็งได้ไปพร้อมกัน
กระเป๋า Lady Dior สีน้ำเงินสด ที่อยู่ในกรอบเหล็กสแตนเลส ซึ่งทำให้เราสามารถมองกระเป๋าได้ในทุกมุมมองใหม่ ไม่ว่าจะอยู่ตรงซอกมุมไหน สื่อถึงการเปิดมิติใหม่ๆ ของการมองกระเป๋า
กระเป๋า Lady Dior ในรูปแบบภาพ 2 มิติ วางลงบนแผ่นเหล็กไวนีลที่ตัดออกมาเหมือนแผ่นน้ำไหล ศิลปินต้องการสื่อถงการพรางตาคนดูว่าจริงๆ แล้วคืออะไรกันแน่ของแข็งหรือของเหลว และมีมุมมองของกระเป๋าแบบผ่าครึ่ง
ไม่น่าเชื่อว่าอีพ็อกซี่ เรซิ่น ก็สามารถปั้นขึ้นเป็นกระเป๋าได้ และดูสวยไปอีกแบบ แต่ที่สร้างสรรค์ออกมาเป็นกระเป๋า Lady Dior ที่ดูเหมือนของเก่า เพราะศิลปินต้องการสื่อถึงความต่ำต้อยของตัวเอง เลยเน้นการทำให้กระเป๋าเหมือนขัดฟอกสีมา
อีกหนึ่งปฏิมากรรมที่สื่อถึงจิตวิญญาณอมตะของแบรดน์ Dior ที่ถูกเก็บเอาไวว้ในหิน ผสมผสานกับทัศนียภาพอันโหดร้าย นำมาเผารวมกัน สื่อถึงความโหดร้ายของโลกแต่ก็มีกระเป๋า Lady Dior เป็นความดีงามที่แฝงเอาไว้ แล้วความดีงามนี้ก็ถูกเก็บตลอดไปในโหลแก้ว ในชื่อผลงานว่า Lady Rock
กระเป๋าที่ผสมระหว่างวัสดุ 2 อย่างได้แก่ หนังและอีพ็อกซี่ ไอเดียศิลปินรายนี้แปลก เขาถ่ายทอดผ่านประสบการณ์เมื่อครั้งที่บ้านโดนเฮอร์ริเคนถล่มแล้วเผยให้เห็นข้างในของบ้าน ซึ่งมีความสวยงามในอีกแบบหนึ่ง เขาจึงหยิบไอเดียนี้มาใส่ในกระเป๋า Lady Dior
สวยโดดเด่นอีกใบของกระเป๋า Lady Dior ที่ทำจากแก้วทั้งใบ ซึ่งศิลปินนำไอเดียมาจากความคิดของ ศิลปินระดับโลก ปิกัสโซ ที่บอกว่า every act of destruction is an act of creation หมายถึง ทุกๆ การทำลายก็กลายเป็นงานสร้างสรรค์ได้เช่นกัน
ชิ้นสุดท้ายเป็นของ ศิลปินไทย “รัตนา สาลี” มาในคอนเซ็ปต์ Modern city, Modern Life นำเสนอความเติบโตทันสมัยของกรุงเทพฯ โดยมีแนวคิดว่าถ้าสร้างสเปซที่เปิดโล่งจะสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ที่น่าสนใจลงไปได้ เช่นเดียวกับกระเป๋า Lady Dior ที่สามารถใส่อะไรลงไปได้มากมาย