- Lifestyle
เก็บตก 20 ประเด็น หลัง หงส์ จม! เรือ
By Sweeper Keeper • on Nov 11, 2019 • 1,098 Views
ผ่านพ้นไปแล้วเรียบร้อย สำหรับ ซูเปอร์บิ๊กแม็ตช์ ซึ่งเป็นเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้…
และอย่างที่เราทราบกันไปแล้วว่า เป็นทางฝ่าย หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่เปิดบ้านอัด เรือใบสีฟ้า ผู้มาเยือน ไปได้แบบราบคาบ 3-1
โดยชัยชนะในเกมนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล รั้งเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนน 34 แต้ม ทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ ที่ตกไปอยู่อันดับสี่ 9 แต้ม รวมถึงนำอันดับสองและสามอย่าง เลสเตอร์ และ เชลซี 8 แต้ม
หลังจบเกม มีสถิติและประเด็นที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้อ่านกันตรงนี้ชนิดที่บอกได้เลยว่า เต็มอิ่ม จุใจ แน่นอน!
และต่อไปนี้คือ 20 ประเด็นเก็บตก หลัง ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์เอาชนะ แมนฯ ซิตี้…
1. ชัยชนะที่มีต่อ แมนฯ ซิตี้ 3-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล ยืดสถิติไม่แพ้ใครในแอนฟิลด์เพิ่มเป็น 4️6️ นัด โดยเป็นการชนะ 36 เสมอ 10 แพ้ 0
2. นอกจากนั้น ลิเวอร์พูล ยังทำสถิติชนะรวด 13 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ ลีกที่แอนฟิลด์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี
3. ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ แมนฯ ซิตี้ ในบ้านใน 17 เกมหลังสุดที่พบกันเกมพรีเมียร์ ลีก (ชนะ 12 เสมอ 5 แพ้ 0) โดยครั้งสุดท้ายที่แพ้ต้องย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมปี 2003 (แพ้ด้วยสกอร์ 2-1)
4. นับตั้งแต่เดือน สิงหาคม ปี 2018 เป็นต้นมา ซาดิโอ มาเน่ ยิงประตูในพรีเมียร์ ลีกที่แอนฟิลด์ไปแล้ว 22 ลูก ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูในสนามเดียวกันมากที่สุด ณ ตอนนี้
5. โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ มีส่วนร่วมกับการได้ประตูไปแล้ว 69 ลูก จากการลงสนามในทุกรายการที่แอนฟิลด์ทั้งหมด 60 นัด (ยิง 51 ลูก + 18 แอสซิสต์) โดยเขายิงได้ 3 ประตู จาก 4 เกมล่าสุดที่พบกับ แมนฯ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์
6. ลูกตะบันสุดสวยนอกกรอบเขตโทษของ ฟาบินโญ่ เป็นประตูลูกที่ 10 ที่ ลิเวอร์พูล ได้จากนักเตะตำแหน่งมิดฟิลด์ โดย 9 ลูกก่อนหน้านี้ได้จาก ไวจ์นัลดุม, แชมเบอร์เลน ยิง เกงค์ (แชมป์เปี้ยน ลีก) มิลเนอร์, แชมเบอร์เลน ยิง อาร์เซน่อล (ลีก คัพ) เฮนโด้ ยิง สเปอร์ส (พรีเมียร์ ลีก) แชมเบอร์เลน ยิง เกงค์ (คนเดียวสองเดียว, แชมป์เปี้ยน ลีก) ลัลลน่า ยิง แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ ลีก) และ มิลเนอร์ ยิง เลสเตอร์ (พรีเมียร์ ลีก)
7. ในยามที่ ฟาบินโญ่ ลงสนามเป็นตัวจริง ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครติดต่อกันมาแล้วถึง 31 นัด โดยเป็นการชนะ 26 เสมอ 5 แพ้ 0
8. นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน คือสองนักเตะที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดของพรีเมียร์ ลีก โดยทำได้เท่ากันที่ 12 แอสซิสต์
9. ขณะที่กัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ลงเล่นเป็นนัดที่ 250 ในพรีเมียร์ ลีกให้ ลิเวอร์พูล ก็ทำแอสซิส์แรกได้ในเกมนี้ โดยในประวัติศาสตร์ของสโมสร มีนักเตะ ลิเวอร์พูล แค่ 6 คนเท่านั้น ที่ลงเล่นในเกมลีกถึง 250 นัด ได้แก่ เจมี่ คาร์ราเกอร์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ซามี่ ฮูเปีย, เปเป้ เรน่า และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
10. นอกเหนือจากสกอร์แล้ว อีกอย่างที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างราบคาบก็คือ การแทคเกิ้ล โดยมีสถิติระบุว่า นอกเหนือจากผู้รักษาประตู อลิสซอน เบ็คเกอร์ แล้ว ผู้เล่นเอ้าท์ฟิลด์อีก 10 ตัวของ ลิเวอร์พูล ทุกคนเอาชนะการแทคเกิ้ลผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างน้อยคนละ 1 ครั้งในเกมนี้
11. ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้ 11 จาก 12 นัด นำเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนน 34 แต้ม ทิ้งห่างอันดับสองตอนนี้อยู่ 8 แต้ม มีเพียง แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 1993-94 เท่านั้น ที่หลังจากลงเล่นไป 12 นัด แล้วทำแต้มห่างทีมอันดับสองได้มากกว่า โดยซีซั่นนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ทำแต้มนำหน้าคู่แข่ง 9 คะแนน
12. ในชัยชนะ 11 จาก 12 นัด ของ ลิเวอร์พูล มีอยู่ 5 เกมที่เป็นการเก็บชัยชนะเหนือทีม 6 อันดับแรกของตารางในตอนนี้ ไล่ไปตั้งแต่ ชนะ อาร์เซน่อล 3-1 (เหย้า), ชนะ เชลซี 2-1 (เยือน), ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0 (เยือน), ชนะ เลสเตอร์ 2-1 (เหย้า) และ ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 (เหย้า)
13. ที่ผ่านมามีเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ที่มีทีมเก็บได้ถึง 34 แต้ม จากการเลงเตะพรีเมียร์ ลีก 12 เกม นั่นคือ แมนฯ ซิตี้ ที่ทำได้ในฤดูกาล 2011/12, 2017/18 และ ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ในฤดูกาลนี้
14. การแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 3-1 ถือเป็นครั้งที่สองแล้วในฤดูกาลนี้ที่ แมนฯ ซิตี้ เสียประตูให้กับคู่แข่งในพรีเมียร์ ลีกถึง 3 ลูก โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในแม็ตช์ที่พวกเขาบุกไปแพ้ให้กับ นอริช ซิตี้ 3-2 ทั้งๆ ที่เมื่อฤดูกาลก่อน ซิตี้ เสียประตูให้กับคู่แข่งถึง 3 ลูกเพียงครั้งเดียว นั่นคือแม็ตช์ที่พวกเขาแพ้คาบ้านให้กับ คริสตัล พาเลซ 3-2 เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018
15. แมนฯ ซิตี้ เสียสองประตูใน 15 นาทีเป็นครั้งแรกในเกมพรีเมียร์ ลีกนับตั้งแต่ที่พวกเขาเคยเสียสองประตูในช่วง 15 นาทีแรกของเกมในการพบกับ เลสเตอร์ ซีตี้ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016
16. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงต้องฝันร้ายในการนำทีมมาเยือนที่แอนฟิลด์ต่อไป โดย 5 นัดล่าสุด เขากับลูกทีมยังควานหาชัยชนะไม่เจอเลย (แพ้ 4 เสมอ 1)
17. เท่านั้นยังไม่พอ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องแพ้ให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นนัดที่ 9 ในการคุมทีมพบกันทุกรายการ ซึ่งแน่นอนว่า ผู้จัดการทีมที่เอาชนะ เป๊ป ได้มากที่สุดก็คือ คล็อปป์
18. เช่นเดียวกับ เซร์จิโอ อเกวโร่ ที่ยังลบสถิติอันย่ำแย่ของตัวเองในการมาเล่นที่แอนฟิลด์ไม่ได้เช่นเคย โดยเขายิงประตู ลิเวอร์พูล ไม่ได้เลยที่สนามแห่งนี้มาแล้วถึง 9 นัดในทุกรายการ
19. นับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2015 เป็นต้นมา ไมเคิล โอลิเวอร์ ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินในนัดที่ ลิเวอร์พูล ลงเตะมาทั้งหมด 15 เกม ซึ่ง ลิเวอร์พูล แพ้ไปเพียงแค่เกมเดียว นั่นคือเกมที่บุกไปแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017
20. โจเซ่ มูรินโญ่ หนึ่งในผู้สัดทัดกรณีที่ทำหน้าที่วิเคราะห์เกมคู่นี้ให้กับช่อง สกาย สปอร์ตส์ แสดงความเห็นว่า สำหรับเขา การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ปีนี้ มันจบแล้ว!
โดย เดอะ สเปเชียล วัน กล่าวว่า “ด้วยวิธีการที่พวกเขาเล่น นั่นคือให้ ฟีร์มิโน่ ถอยต่ำลงมา เพื่อให้ มาเน่ และ ซาล่าห์ ดันตัวเองสูงขึ้นไปเล่นตำแหน่งนั้น แล้วข้างหลังยังมี เฮนเดอร์สัน และ ไวจ์นัลดุม คอยเก็บกวาดพื้นที่ตรงมิดฟิลด์ให้ มันเป็นจิ๊กซอว์ที่สมบูรณ์แบบ ผมคิดว่า การลุ้นแชมป์มันจบแล้ว! นอกเสียจากว่าจะมีอะไรดราม่าๆ เกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล เช่น ต้องเจอกับสถานกาณ์นักเตะบาดเจ็บขั้นวิกฤต”
เครดิตภาพ : Evening Standard
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง