ส่งผลกระทบไปทั่วทุกวงการจริงๆ สำหรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตอนนี้ยังลุกลามอย่างหนักโดยเฉพาะที่อเมริกา

ซึ่งในส่วนของแวดวงภาพยนตร์ก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ เช่นกัน อย่างที่เราทราบว่าหนังฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์หลายเรื่องต้องถูกเลื่อนฉายออกไปจากกำหนดเดิม

ล่าสุด ค่ายดิสนี่ย์ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าหนังฟอร์มยักษ์ของพวกเขา 3 เรื่องทั้ง Mulan, Star Wars, Avatar มีอันจะต้องถูกเลื่อนฉายต่อไปเนื่องจากทั่วโลกยังต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตด้านสุขภาพ

โดย Mulan งานไลฟ์-แอ็คชั่นรีเมค ซึ่งเดิมทีมีกำหนดฉายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและถูกเลื่อนกำหนดฉายออกไปเป็นเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ มีอันต้องถูกเลื่อนออกไปอีกครั้งแบบไม่มีกำหนด

“เป็นอะไรที่ชัดเจนแล้วว่ามันยังไม่สามารถกำหนดวันที่แน่นอนได้สำหรับการปล่อยหนังออกมาฉายในช่วงที่ทั่วโลกมีวิกฤตเรื่องสุขภาพแบบนี้” ตัวแทนค่ายหนังดิสนี่ย์กล่าว

“นั่นหมายความว่าวันนี้เราต้องพักแผนการที่จะฉายหนังเรื่อง Mulan เอาไว้ก่อนชั่วคราว และรอดูสถานการณ์ว่าเราจะสามารถนำหนังเรื่องนี้ออกฉายให้แก่ผู้ชมทั่วโลกได้อย่างไร”

นอกจากนี้ หนัง Star Wars ไตรภาคก็ต้องถูกปรับคิวฉายใหม่ทั้งหมด โดยเดิมทีหนังเรื่องแรกซึ่งเคยกำหนดว่าจะฉายในเดือนธันวาคม ปี 2022 ต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 22 ธันวาคม ปี 2023

เช่นเดียวกับ Avatar ภาคใหม่ทั้ง 4 เรื่อง โดยภาค 2 กำหนดวันฉายใหม่ถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 16 ธันวาคม ปี 2022 ส่วนภาค 3, 4 และ 5 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 20 ธันวาคม 2024, 18 ธันวาคม 2026 และ 22 ธันวาคม 2028 ตามลำดับ

“ก่อนที่จะมีโควิด-19 ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน Avatar ภาคใหม่เรื่องแรกจะฉายให้ได้ชมกันในเดือนธันวาคม 2021” เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับเผย “แต่โชคร้าย ด้วยผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคนี้ทำให้กำหนดการที่วางไว้ไม่สามารถเป็นไปได้”

แค่นั้นยังไม่พอ The French Dispatch หนังของผู้กำกับเวส แอนเดอร์สัน เดิมที่วางคิวไว้ว่าจะฉายในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ก็ถูกทางดิสนี่ย์ลบออกจากกำหนดฉายไปแล้วเรียบร้อย

รวมไปถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน Tenet หนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ถูกเลื่อนฉายออกไปแบบไม่มีกำหนดด้วยเช่นกัน