- Sport
20 ประเด็นเก็บตก หลัง ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มประเดิมศักราชใหม่
By Sweeper Keeper • on Jan 03, 2020 • 1,127 Views
เรียกได้ว่าทำให้แฟนๆ หงส์แดง ทุกคน อิ่มอก อิ่มใจ ในช่วงคริสต์มาสต่อเนื่องมาจนถึงช่วงวันขึ้นปีใหม่กันเลยทีเดียว
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่า ลิเวอร์พูล ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงแบบใครหน้าไหนก็ฉุดไม่อยู่ เป็นทีมเดียวที่เก็บ 9 คะแนนเต็ม จาก 3 เกมในช่วงโปรแกรมสุดหฤโหดได้สำเร็จ
โดยเกมล่าสุด พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะทีมน้องใหม่อย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปได้แบบสบายๆ 2-0 ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ยังคงรักษาความห่างของคะแนนกับรองจ่าฝูง เลสเตอร์ ไว้ที่ 13 แต้ม และลงเตะน้อยกว่า 1 นัดเช่นเดิม
ชัยชนะที่ได้มาอย่างต่อเนื่องอีกนัด ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังคงเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
และต่อไปนี้คือ 20 ประเด็น ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มประเดิมปี 2020 ซึ่งเรารวบรวมมาฝากให้ได้อ่านกันแบบเต็มอิ่ม จุใจเช่นเคย
1. ลิเวอร์พูล ยืดสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ ลีกที่แอนฟิลด์ เป็นนัดที่ 51 ติดต่อกัน โดยเป็นการชนะ 41 เสมอ 10 แพ้ 0 ยิงไป 129 ประตู
2. โดยตอนนี้ ลิเวอร์พูล คือทีมที่มีสถิติไร้พ่ายในบ้านยาวนานที่สุดของ 5 ลีกใหญ่ในยุโรป ลิเวอร์พูล 51 นัด, ยูเวนตุส 29 นัด, บาร์เซโลน่า 21 นัด, ลีลล์ 14 นัด
3. ชัยชนะเหนือ เชฟฯ ยูไนเต็ด ทำให้ ลิเวอร์พูล ไร้พ่ายในพรีเมียร์ ลีก ครบ 1 ปีเต็ม โดยนัดสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล แพ้ คือการบุกไปพ่ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ 1-2 เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2019
4. หลังจากนั้นเป็นต้นมา ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครเลยในพรีเมียร์ ลีก 37 นัดติดต่อกัน โดยตอนนี้มีเพียงสองทีมที่ทำสถิติไร้พ่ายติดต่อกันได้นานกว่านั่นคือ เชลซี 40 นัด และ อาร์เซน่อล 49 นัด
5. นับตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม ลิเวอร์พูล ลงเตะกับทีมน้องใหม่ (ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก) ที่แอนฟิลด์มาแล้ว 12 นัด และเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด 12 นัด โดยสกอร์รวมทุกนัดคือ 35 ประตูต่อ 4
6. ลิเวอร์พูล ทำประตูได้ในพรีเมียร์ ลีกติดต่อกันมาเป็นนัดที่ 29 ก่อนหน้ามีเพียงสองทีมเท่านั้นที่ยิงประตูในเกมพรีเมียร์ ลีกได้ติดต่อกันนานกว่านั่นคือ อาร์เซน่อล 55 นัด (ทำไว้ช่วงปี 2001 – 2002) และ แมนฯ ยูไนเต็ด 36 นัด (ทำไว้ช่วงปี 2007 – 2008)
7. โดย ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครเป็นนัดที่ 65 ติดต่อกันในยามที่เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อนในครึ่งแรก
8. ลิเวอร์พูล ได้ประตูแรกในปี 2020 ที่แอนฟิลด์ จาก โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ โดย ผลงาน 1 ประตู 1 แอสซิสต์ ในเกมนี้ ทำให้เขายิงรวมไปแล้วทั้งหมด 37 ประตู และ 10 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 50 นัดล่าสุดในแอนฟิลด์
9. ซาล่าห์ ยิงประตูใส่ทีมคู่แข่งที่พบกับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ ลีกไปแล้ว 22 จาก 25 ทีม โดยสามทีมที่ ซาล่าห์ ยังยิงประตูไม่ได้คือ แมนฯ ยูไนเต็ด, สวอนซี และ แอสตัน วิลล่า
10. ซาล่าห์ กลายเป็นผู้เล่นคนที่สี่ที่ยิงประตูได้จากเท้าซ้าย 50 ลูกหรือมากกว่านั้นในการเล่นให้กับสโมสรเดียว โดยสามคนที่ทำได้ก่อนหน้านี้คือ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (ยิง 85 ลูกให้ ลิเวอร์พูล), ไรอัน กิ๊กส์ (ยิง 83 ลูกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด) และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ (ยิง 63 ลูกให้ อาร์เซน่อล)
11. นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนมิถุนายน 2016 ซาดิโอ มาเน่ ยังไม่เคยแพ้ในเกมที่ลงเล่นที่แอนฟิลด์เลยแม้แต่นัดเดียว
12. นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา มาเน่ ยิงประตูในเกมพรีเมียร์ ลีกที่แอนฟิลด์ไปแล้ว 25 ลูก เฉพาะใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปมีนักเตะเพียงสองคนเท่านั้นที่ยิงประตูในบ้านได้มากกว่ามาเน่นั่นคือ ลิโอเนล เมสซี่ (29 ลูก ที่ คัมป์ นู) และ คีเลี่ยน เอ็มบั๊ปเป้ (27 ลูก ที่ ปาร์ก เดส์ แปรงส์)
13. ประตูที่ทำได้ในเกมนี้ ทำให้ มาเน่ มีส่วนร่วมในการทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 100 ลูก จากการลงสนามทุกรายการไป 151 เกม โดยเป็นการยิง 74 ลูก และ 26 แอสซิสต์
14. แบ็คซ้าย-ขวาของ ลิเวอร์พูล ช่วยกันทำแอสซิสต์ไปแล้วทั้งหมด 37 ครั้ง โดย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำไป 20 แอสซิสต์ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ทำไป 17 แอสซิสต์ มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งและสองของพรีเมียร์ ลีกนับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา
15. ลิเวอร์พูล เก็บคลีทชีทในพรีเมียร์ ลีกได้เป็นนัดที่ 5 นัดติด ไล่ตั้งแต่ ชนะ บอร์นมัธ 0-3, ชนะ วัตฟอร์ด 2-0, ชนะ เลสเตอร์ 0-4, ชนะ วูล์ฟส์ 1-0 และล่าสุดชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-0 โดยทุกนัดเป็นการจับคู่กันของ โจ โกเมซ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค
16. ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 (ยุค ราฟา เบนิเตซ) ที่ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บคลีทชีทในพรีเมียร์ ลีกได้ 5 เกมติดต่อกัน และหากไม่นับเกมลีกคัพที่พบกับแอสตัน วิลล่า ลิเวอร์พูล เสียไปแค่ประตูเดียวจาก 8 เกมล่าสุดในทุกรายการ (เสียในเกมที่เจอกับ มอนเตอร์เรย์ ในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก)
17. นัดที่พบกับ เชฟฯ ยูไนเต็ด คือการลงสนามนัดที่ 50 ในพรีเมียร์ ลีกของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ โดยการไม่เสียประตูในเกมนี้ ทำให้เขาเก็บคลีทชีทได้เป็นนัดที่ 26 (และเสียไปแค่ 27 ลูก) โดยที่ผ่านมามีผู้รักษาประตูเพียงสองคนเท่านั้นที่ลงเล่นไป 50 นัดแล้วเก็บคลีทชีทได้มากกว่านั่นคือ ปีเตอร์ เช็ค (33 คลีทชีท) และ เปเป้ เรน่า (28 คลีทชีท)
18. สถิติที่น่าทึ่งอีกอย่างที่เกิดขึ้นในเกมชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด ก็คือ เกมนี้ ลิเวอร์พูล ผ่านบอลรวมกันมากถึง 969 ครั้ง ซึ่งถือเป็นการผ่านบอลในหนึ่งเกมที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก
19. นอกจากนั้น ในเกมนี้ ลิเวอร์พูล ผ่านบอลสำเร็จไปทั้งหมด 874 ครั้ง มากเป็นอันดับสี่ในเกมพรีเมียร์ ลีกหนึ่งเกม โดย 4 อันดับ เกมที่มีการผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดได้แก่
แมนฯ ซิตี้ ผ่านบอลสำเร็จ 942 ครั้ง นัดที่พบกับ สวอนซี (ปี 2018), แมนฯ ซิตี้ ผ่านบอลสำเร็จ 905 ครั้ง นัดที่พบกับ เอฟเวอร์ตัน (ปี 2018), แมนฯ ซิตี้ ผ่านบอลสำเร็จ 902 ครั้ง นัดที่พบกับ เชลซี (ปี 2018) และ ลิเวอร์พูล ผ่านบอลสำเร็จ 874 ครั้ง นัดที่พบกับ เชฟฯ ยูไนเต็ด (ปี 2020)
20. ลิเวอร์พูล เก็บไปแล้วถึง 58 แต้ม จาก 20 เกมในพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลนี้ นับตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ระบบชนะ 1 นัดได้ 3 คะแนน มีเพียง แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นที่ทำได้ 58 แต้ม จาก 20 เกมเช่นกันในฤดูกาล 2017-18
เครดิตภาพ : Evening Standard
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง