เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งที่ Roger Federer นักเทนนิสแชมป์โลก ได้ลงสนามวิมเบิลดัน แต่สิ่งที่เราจะพูดถึงคงไม่ใช่ลีลาการฟาดไม้แร็คเก็ตที่เยี่ยมยอดของเขา แต่เป็นความประหลาดใจที่หลายคนอาจจะเพิ่งทราบ เมื่อเขาตัดสินใจสวมเสื้อใหม่ที่ไม่ใช่ NIKE แต่เป็น Uniqlo และรวมไปถึงริสต์แบนด์และเฮดแบนด์ด้วย

ทั้งนี้ สัญญาของ Federer กับ NIKE เพิ่งหมดไปเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมกับมีข่าวลือว่าเขาได้เปลี่ยนสปอนเซอร์แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นแบรนด์ไหน จนกระทั่งเขาได้ก้าวมายังสนามเทนนิสเก่าแก่ของอังกฤษแห่งนี้พร้อมกับเสื้อที่มีโลโก้ใหม่

กับ NIKE นั้นเป็นที่ขึ้นชื่อดีอยู่แล้วว่าเป็นสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬาชื่อดังหลายคน ไม่ว่าจะเป็น LeBron James นักกีฬาบาสเก็ตบอล หรือ Serena Williams นักเทนนิสหญิงชื่อดัง ฯลฯ แต่อาจบอกได้ว่ามีนักกีฬาน้อยคนนักที่เซ็นสัญญากับ NIKE นานเท่า Federer นักเทนนิสพรสวรรค์จากสวิสรายนี้

ก่อนหน้านี้ NIKE เคยเผยถึงรายได้เมื่อปีที่แล้วถึงการลงทุนไปกับกลยุทธ์ endorsement (การใช้บุคคลมีชื่อเสียงผลักดันแบรนด์) ผ่านนักกีฬา, ทีมกีฬา หรือสโมสรกีฬา ที่มีโปรไฟล์เป็นเลิศ ซึ่งช่วยผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นถึง 6% โดยคิดเป็นมูลค่าแล้วประมาณ 34.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า NIKE จะทำการตลาดรูปแบบไหนต่อไปในช่วงที่ขาดเครื่องหมายการค้าสำคัญอย่าง Federer แต่ก็มีการจับสังเกตว่าในส่วนของรองเท้านั้นเขายังคงใช้ NIKE อยู่เหมือนเดิมในการลงสนามที่วิมเบิลดัน นั่นอาจเป็นเพราะว่า Uniqlo ยังไม่มีไลน์ในการผลิตรองเท้าเทนนิสก็เป็นได้

นับได้ว่า Federer ขึ้นมาเป็น face หน้าใหม่ให้กับ Uniqlo ซึ่งก่อนหน้านี้มีนักกีฬาคนอื่นๆ ด้วย อาทิ  Adam Scott นักกีฬากอล์ฟ และ Kei Nishikori นักเทนนิสชาวญี่ปุ่น รวมไปถึง Novak Djokovic นักเทนนิสชาวเซอร์เบีย ก็เคยเซ็นสัญญากับแบรนด์ญี่ปุ่นรายนี้เมื่อปี 2012 เช่นกัน ก่อนที่จะหันหนีไปหา Lacoste เมื่อปีที่แล้ว

ด้าน Federer กล่าวถึงผู้สนับสนุนคนใหม่ว่า “ผมตื่นเต้นมากกับการได้สวมชุดของ Uniqlo ลงแข่งในวันนี้”

สำหรับสัญญาในครั้งนี้ทาง ESPN รายงานว่ามีมูลค่าประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นระยะเวลา 10 ปี ในขณะที่ NIKE เคยจ่ายให้กับนักเทนนิสสวิสรายนี้ไป 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี โดยเริ่มต้นสัญญาเมื่อปี 2008 ที่ผ่านมา.

Money.cnn.com