- Entertainment
The Face Lessons EP.8: ถึงเวลาต้องเติบโต เมื่อก้าวต่อไปเราต้องยืนด้วยขาของตัวเอง
By DiamondP • on Dec 06, 2018 • 2,213 Views
โค้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ สำหรับ The Face Men Thailand Season 2 กับแคมเปญที่ 8 ในตอนที่ 9 การแข่งขันที่ดำเนินมาถึงจุดสำคัญคือการเลือกหนึ่งเดียวที่จะได้เข้าสู่ Final Walk เป็นตัวแทนทีมชิงชัยในศึกสุดท้ายของรายการ ดังนั้นการแข่งขันในครั้งนี้จึงเข้มข้น หนักหน่วง และพิสูจน์ฝีมือได้มากที่สุด ใครจะยืนหนึ่ง ใครจะเจิดจรัส ส่วนใครจะไม่ได้ไปต่อ เราสรุป รีวิว และวิจารณ์จัดเต็มมาให้แล้ว
ไปอ่านกันเลยค่ะ!
เราเลือกเพื่อนร่วมงานไม่ได้ แต่เราเลือกจะปรับตัวได้
Master Class ในสัปดาห์นี้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้แคมเปญไหน ๆ กับการยกกองไปเป็นรายการแรกที่ได้ถ่ายทำ ณ ICON Siam ห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เริ่มต้นด้วยการสอน Opposite Inner เพื่อใช้ในการเดินแบบ ก่อนที่โจทย์จะกลายเป็นการถ่ายแฟชั่นวีดีโอ หักมุมจนหมูยองต้องบอกว่า ‘มัน Link กันตรงไหนครับ??’ แต่ถึงอย่างนั้นจุดเด่นหลักของโจทย์ในสัปดาห์นี้คือการทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์ และการแสดง
การทำงานเป็นทีมถือเป็นจุดสำคัญที่สุดในมาสเตอร์คลาสครั้งนี้เลยทีเดียว อย่างที่แอนดี้บอกเอาไว้ว่า เราเลือกไม่ได้อยู่แล้วว่าต้องทำงานกับใคร ประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญที่มักจะเป็นเรื่องหนักใจของเหล่าบรรดาคนที่เริ่มงานใหม่ การจะปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่มันอาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่ถ้าเราเปิดใจและเลือกจะเรียนรู้ มันจะมีที่ของเราอยู่เสมอ และในที่แห่งนั้นเราจะสามารถทำมันได้ดีที่สุด เช่นเดียวกับผู้ชนะในมาสเตอร์คลาสครั้งนี้
ทีมที่สามารถเอาชนะมาสเตอร์คลาสนี้ได้ พลิกโผมากค่ะ กลับกลายเป็นทีมที่สมาชิก 2 ในสามออกจากการแข่งขันไปแล้ว แถมยังเป็นทีมที่ถูกสบประมาทว่าเป็นแก๊งค์มนุษย์หิน ผู้ไม่สามารถแสดงอินเนอร์ในการแสดงได้ดีเท่าที่ควร แต่พวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่าการทำงานเป็นทีม บวกกับการทำด้วยความสุข ผลงานทุกอย่างมันจะสะท้อนตัวตนออกมา และช่วยผลักดันความสามารถเราได้มากกว่าเดิม
แม้เราจะไม่ใช่คนที่ถูกเลือก แต่เราสามารถสนับสนุนทีมได้
หลายคนคงมีความคิดลึก ๆ อยู่ในใจกันอยู่แล้วล่ะค่ะ ว่าถ้าหากทุ่มเทไป หรือทำไปแล้วไม่ถูกเลือกจะทำไปทำไม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นฐานของมนุษย์เรา แต่เมื่อมันมีความสัมพันธ์พี่น้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องที่เราพูดไปข้างต้นทุกอย่างก็มีข้อแม้เสมอ เหมือนที่เกิดขึ้นกับ #TeamMoo ในแคมเปญถ่ายแฟชั่นวีดีโอคู่กับรถยนต์ครั้งนี้
เราได้เห็นการเสียสละของคนที่รู้ตัวอยู่ลึก ๆ ว่าตัวเองจะไม่ถูกเลือกแน่นอน พยายามทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อผลักดันเพื่อนร่วมทีมให้สามารถเฉิดฉายได้มากที่สุด ด้วยแคมเปญที่เมนเทอร์สามารถเข้ามากำกับได้เพียงแค่เทคเดียว ส่วนอีกเทคนั้นผู้เข้าแข่งขันต้องทำงานด้วยตัวเอง ถือเป็นการวัดความสามารถในการทำงานจริงได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันไม่ใช่แค่การวัดความสามารถของลูกทีมเท่านั้น แต่มันเป็นการวัดความสามารถของเมนเทอร์ด้วยเช่นกัน
เห็นได้ชัดเลยว่าประสบการณ์ของ #MentorMoo และ #MentorSonia ที่สามารถบรีฟงานลูกทีมได้อย่างชัดเจนมันแตกต่างกับเมนเทอร์สำรองที่มาแทน #MentorToni อย่าง เมนเทอร์พิชญ์เป็นไหน ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะการมาแทนและไม่อยากก้าวก่ายหน้าที่ที่ตัวเองไม่ได้ทำมาตั้งแต่ต้น หรือการขาดประสบการณ์จริง ๆ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือมันส่งผลถึงผลงานของลูกทีมทั้งหมด จนพวกเราอดที่จะคิดเหมือนมาสเตอร์ และเมนเทอร์อีก 2 ท่านไม่ได้เลยค่ะว่า ‘เราสงสารทีมโทนีจริงๆ’
บทบาทของสมาชิกแต่ละทีมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนของแต่ละทีมใน The Face Men Thailand Season 2 คือบทบาทระหว่างตัวเมนเทอร์และลูกทีม เริ่มต้นกันที่ #TeamToni ที่ชัดเจนเลยว่าพวกเขายึดติดกับตัวเมนเทอร์ และความเป็นทีมมอนสเตอร์อย่างแน่นหนา ข้อดีคือความกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว แต่ข้อเสียคือ พวกเขาไม่สามารถปรับตัวได้เลยเมื่อต้องเจอเมนเทอร์คนใหม่ ซึ่งนั่นกลายเป็นผลเสียในการทำงานอย่างเสียไม่ได้
#TeamSonia กับบทบาทความเป็นแม่ลูกที่ชัดเจนมาก ๆ ทั้งลูกทีมและเมนเทอร์ต่างก็พยายามค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ร่วมกัน เติบโตไปด้วยกัน แม้จะเป็นเส้นทางที่เสี่ยงไปบ้าง แต่พวกเขาก็ผ่านมันมาด้วยความเป็น Teamwork ทุกคนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และสามารถยอมรับความเป็นจริงได้ เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าทีมนี้คนที่เหมาะสมสำหรับไฟนอลวอล์คมากที่สุดคือ ลูอิส สมาชิกในทีมที่เหลือจึงสนับสนุนให้ทีมสามารถไปต่อได้ ให้ความรู้สึกเหมือนพี่น้องกันจริง ๆ
สุดท้ายกับท #TeamMoo ทีมที่ทำสถิติอย่างต่อเนื่องด้วยการชนะรวด 5 ครั้งซ้อน ปัจจัยหลักของทีมนี้คือ การที่ลูกทีมมองเมนเทอร์เหมือนเป็น ‘เส้นชัย’ สำหรับพวกเขาแล้ว การเอาชนะรายการอาจไม่สำคัญเท่ากับการเอาชนะใจของเมนเทอร์หมูด้วยซ้ำ ดังนั้นทำให้เมื่อทำแคมเปญพวกเขาจึงทุ่มเทไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อทีม เพื่อเมนเทอร์ของตัวเองด้วย แรงผลักดันจึงสะท้อนออกมาเป็นความสำเร็จอย่างที่เราเห็น
Final Walk ทั้ง 4 คน เตรียมพร้อมสู่แคมเปญสุดท้าย
ผลผู้เข้าแข่งขันที่ได้เดิน Final Walk ก็ได้ออกมาแล้วนะคะ นั่นคือ ลูอิส จากทีมซอนย่า, ป็อปปี้ และคิม จากทีมหมู และที่พลิกโผที่สุดคือ เรียวตะ จากทีมโทนี่ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีลูกทีมที่ถนัดภาษาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งไทย, อังกฤษ และญี่ปุ่น ความท้าทายก็คือพวกเขาจะทำอย่างไรกับแคมเปญสุดท้ายที่เป็นการถ่ายวีดีโอ ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีบทพูดด้วย บทพูดจะเป็นภาษาอะไรนั่นอาจเป็นหนึ่งในตัวตัดสิน
เราขอพูดถึงหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่ได้เดินไฟนอลวอล์คกันเสียหน่อย กับ ป็อปปี้ จากทีมหมู ผู้เข้าแข่งขันที่มีกระแสโจมตีมากที่สุดคนหนึ่งในรายการ ซึ่งเขาเองก็รู้ตัวว่ามันเกิดกระแสอะไรขึ้นมากับตัวเขาบ้าง และเขาเลือกที่จะใช้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ว่าเขาเหมาะสมที่จะอยู่ในรายการนี้ เรื่องคำพูดคำจาของเขาอาจจะไม่ได้ถูกใจผู้ชมทุกคน แต่เขาคือภาพของสารที่เมนเทอร์หมูอยากจะส่งไปถึงผู้ชมทั้งหมดว่า…
การให้คุณค่ากับความพยายาม และความฝักใฝ่ มันสำคัญมากกว่าแค่พรสวรรค์เพียงอย่างเดียว
สรุปนะคะ
ตอนที่ 9 นี้เราขอสรุปอย่างแรกถึงการชื่นชมทีมงานตัดต่อรายการ ที่สามารถตัดต่อการทำแคมเปญของลูกทีมแต่ละคนออกมาได้สื่อความหมายถึงความพยายามและความทุ่มเทของพวกเขาได้ดีมาก ๆ เราได้เห็นความสัมพันธ์ของพวกเขาและเมนเทอร์ของตัวเอง เราได้เห็นความจริงใจของพวกเขา เราเชื่อว่านี่ล่ะคือจุดแข็งสำคัญของ The Face Men Thailand ที่ไม่ได้เป็นแค่การแข่งขัน แต่มันเหมือนกับซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ค่อย ๆ ทำให้เรารู้จักตัวละคร สนิทกับพวกเขา รู้ตัวอีกทีเราก็เสียน้ำตาให้กับพวกเขาไปแล้ว
แล้วมาจัดเต็มกันกับตอนหน้า ตอนสุดท้าย Final Walk กันค่ะ XOXO
อ่าน The Face Lessons ตอนอื่น ๆ
Master Mentor คืออะไร? หรือจะเป็นหมากตัวใหม่รีแบรนด์ The Face
The Face Lesson EP.1-2 : เพราะชีวิตจริงคือการแข่งขัน แค่ “แฟร์” อย่างเดียวมันไม่พอ!
The Face Lessons EP.3: ทำดีแล้ว ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำดีกว่าเราไม่ได้
The Face Lessons EP.4: ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะข้ามขีดจำกัดได้ จงยอมรับและพัฒนา
The Face Lessons EP.5: เครื่องมือของความก้าวหน้าคือการเอาชนะความกลัว
The Face Lessons EP.6: อยากยืนหนึ่งเหนือใคร ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ฉลาด
The Face Lessons EP.7: โอกาสจะมองหาคนที่ทุ่มเท และแสดงความต้องการให้เห็น
ภาพจาก: Facebook Page The Face Thailand
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน