- Travel
สิงคโปร์ เมืองเกาะสีเขียวในฝัน สวรรค์แห่งคนรักธรรมชาติ
By choerryblossom • on Jan 14, 2022 • 670 Views
หลายคนเคยได้ยินใช่ไหมคะ ว่าทำไมประเทศที่มีภูมิศาสตร์เป็นเกาะเล็ก ๆ อย่าง “สิงคโปร์” ถึงมีฉายาว่า “City in the Garden” หรือ “เมืองในสวน” หลายประเทศทั่วโลกต่างก็ยกให้สิงคโปร์เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่มาจากต้นไม้นั่นเอง
ในปี 2020 พื้นที่สีเขียวของประเทศสิงคโปร์อยู่ที่ 46.5% ของพื้นที่ทั้งหมดซึ่งมาจากต้นไม้ต้นใหญ่ 30% และมีทางเดินสีเขียวในโครงการ Park Connector Network กว่า 300 กิโลเมตร นอกจากนี้สิงคโปร์ยังมีการผลักดัน Green Building หรือการสร้างตึกที่สามารถปลูกต้นไม้ได้ทุกส่วนของอาคารตั้งแต่ปี 2008 รวมถึงส่งเสริมให้คนใช้ระบบขนส่งสาธารณะเช่นรถไฟฟ้าเป็นหลักแทนรถส่วนตัวเพื่อลดมลพิษจากการคมนาคม
โดยผู้ที่ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นเมืองสีเขียวปลอดมลพิษไม่ใช่แค่รัฐบาลหรือท่านประธานาธิบดี แต่เป็นอาชีพที่สิงคโปร์ได้ผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้เพื่อพื้นที่สีเขียวในประเทศก็คือ นักรุกขกร หรือ หมอต้นไม้ นั่นเอง
นักรุกขกร หรือ หมอต้นไม้ คือผู้ที่มีความมุ่งมั่นอยากจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองหรือสร้างป่าคอนกรีตให้เป็นจริง โดยหน้าที่ของหมอต้นไม้ เริ่มตั้งแต่การปลูกต้นไม้ ตัดแต่งกิ่งไม้ การดูแลต้นไม้ในกรณีฉุกเฉินและระยะยาวไปจนถึงการถอนต้นไม้ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์เชิงลึกรวมไปถึงความรู้ด้านภูมิทัศน์ในการสร้างพื้นที่สีเขียวอีกด้วย รัฐบาลสิงคโปร์ได้สนับสนุนอาชีพนี้ด้วยการเปิดคอร์สที่มีชื่อว่า “ISA Certified Arborist Preparatory Programme” โดยผู้อบรมต้องมีความรู้และประสบการณ์ทางด้าน Arboriculture หรือรุกขศาสตร์ เท่านั้นถึงสามารถเข้าอมรมและสอบเพื่อได้รับใบรับรองจบหลักสูตรและสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพหมอต้นไม้ได้ โดยรายได้เริ่มต้นของอาชีพนี้คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 685,877 บาทต่อปีหรือตกเดือนละ 57,156 บาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่สมน้ำสมเนื้อกับการพัฒนาประเทศให้เป็นพื้นที่สีเขียว
นอกจากหมอต้นไม้ที่สร้างพื้นที่สีเขียวให้ทางประเทศสิงคโปร์อย่างต่อเนื่องแล้วนั้น รัฐบาลสิงคโปร์ยังประกาศนโยบายเกี่ยวกับพื้นที่สีเขียวที่มีชื่อว่า The Singapore Green Plan 2030 ซึ่งเป็นนโยบายที่ทางรัฐบาลกำหนดแนวทางพื้นที่สีเขียวของประเทศไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืนในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยมีตัวอย่างของนโยบายที่ตั้งเป้าหมายไว้ดังนี้
- ในอีก 10 ปี 20% ของโรงเรียนในประเทศสิงคโปร์จะเป็นพื้นที่ปลอดคาร์บอน
- วัยทำงานจะทำงานในอาคารที่เป็นพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืนด้วยการยกระดับมาตรฐานความยั่งยืนของอาคารและสิ่งปลูกสร้างด้วยการตรวจสอบและปรับปรุงโครงการ Green Mask ที่มีอยู่ซึ่งรองรับอาคารที่เป็น eco-friendly และพัฒนาพลังงานสะอาดที่มาจากพื้นที่สีเขียวเพื่อประหยัดต้นทุนและส่งเสริมประสิทธิภาพในการใช้งาน
- พัฒนาระบบขนส่งสาธารณชนด้วยการขยายเครือข่ายรถไฟฟ้าจากเดิมตอนนี้ที่มีอยู่ 230 กม. เป็น 360 กม. และส่งเสริมให้คนในประเทศเดินทางด้วยจักรยานมากขึ้นจากตอนนี้อีก 3 เท่าในอีก 10 ปีข้างหน้า
- มีการทำโครงการต่าง ๆ ที่ให้พื้นที่สีเขียวสามารถอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานอย่างที่อยู่อาศัยของคนได้
- เพิ่มพื้นที่อุทยานธรรมชาติมากกว่า 50% จากตอนนี้ ซึ่งผู้คนที่อาศัยอยู่หรือมาท่องเที่ยวสามารถไปเดินป่าหรือดูนกตามธรรมชาติได้ รวมไปถึงการสร้าง Sustainable energy and chemicals park หรือ อุทยานพลังงานและเคมียั่งยืนจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลของเกาะจูร
นอกเหนือจากนโยบายที่กล่าวไปข้างต้นนั้น ยังมีงานวิจัยและนวัตกรรมของประเทศสิงคโปร์ที่เลือกใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกเพื่อลดอัตราการเกิดคาร์บอนให้ลดลง และมีโครงการ Enterprise Sustainability Programme ที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจ SME เกี่ยวกับพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนเพื่อให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่มีพื้นที่สีเขียวต่อตารางเมตรมากที่สุดในโลกและกลายเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างยั่งยืน
จากบทความนี้ทำให้เรารู้แล้วว่าทำไมประเทศเกาะเล็ก ๆ อย่าง “สิงคโปร์” ถึงเป็นประเทศที่มีพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่านที่อ่านได้รักษาและดูแลพื้นที่สีเขียวในบ้านตัวเองมากขึ้น
ที่มาจาก
adaymagazine.com
nparks.gov.sg
straitstimes.com
payscale.com
salaryexpert.com
digitalsenior.sg
straitstimes.com
straitstimes.com/singapore/environment/singapore-green-plan-2030
nationalgeographic.com
naturalwalkingcities.com
thestandard.co
ABOUT THE AUTHOR
choerryblossom
สาวน้อยนักเขียนฝึกหัด ประสบการณ์น้อยแต่แพชชั่นร้อยเต็ม