ยุคนี้สมัยนี้สุขภาพคือสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกเหนือไปจากการดูแลร่างกายตัวเอง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ระมัดระวังการใช้ชีวิตแล้ว การได้ไปไหว้ขอพรเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพก็เป็นเรื่องที่ช่วยเพิ่มความสบายใจเข้าไปได้อีกขั้น เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ผมเลยก็ได้มีโอกาสเดินทางไปยัง ศาลเจ้าโจวซือก๋ง ตลาดน้อย หรือวัดซุนเล่งยี่ ศาลเจ้าเก่าแก่ของชาวจีนฮกเกี้ยนที่มีอายุมากกว่า 200 ปี

                การเดินทางก็ง่ายแสนง่าย เพียงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินหรือ MRT มาลงที่สถานีหัวลำโพง แล้วต่อรถแท็กซี่, รถตุ๊กตุ๊ก หรือใครจะเดินเท้าก็ได้ มายังบริเวณตลาดน้อย แล้วเดินต่อไปยังซอยวานิช 2 ผ่านกรมเจ้าท่า เราก็จะเห็นป้ายศาลเจ้าโจวซือก๋ง ตลาดน้อย อยู่ทางซ้ายมือ โดยตัวศาลเจ้าตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเดินทางมาทางเรือได้อีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน

                ศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นมาด้วยสถาปัตยกรรมจีนในยุคสมัยราชวงศ์ชิง ถูกสร้างขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ แม้จะมีร่องรอยของการบูรณะให้เห็นอยู่บ้าง แต่ความสวยงาม ความมีเสน่ห์มนต์ขลังยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วนไม่เสื่อมคลาย ภายในเป็นที่ประดิษฐสถานของพระเซ่งจุ๊ยจ้อซือ, พระไทจื่อเอี๋ย เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม เจ้าพ่อเสือ, เจ้าแม่กวนอิม, พระพุทธ, พระสังกัจจายน์, สามสิบหกเทพเจ้า และเทพเจ้าองค์อื่น ๆ อีกมากมาย

                การกราบไหว้ขอพรก็ไม่ยุ่งยาก มีทั้งการกราบไหว้ชุดเล็ก และกราบไหว้ชุดใหญ่ ในราคา 40 และ 80 บาท โดยทางศาลเจ้าจะนำไปใช้เพื่อทำนุบำรุงศาลเจ้าต่อไป สำหรับใครที่ไปเป็นครั้งแรก ทางศาลเจ้าก็มีรายละเอียดการเรียงลำดับไหว้ และจำนวนธูปที่ใช้เอาไว้อย่างชัดเจน แถมด้วยมีเจ้าหน้าที่ของศาลเจ้าคอยแนะนำการไหว้ในทุกขั้นตอนด้วย แต่มีหมายเหตุอยู่หนึ่งอย่างก็คือ ถ้าอยากจะไปกราบไหว้ขอพรเจ้าแม่ทับทิม ก็ต้องเดินออกจากตัวศาลเจ้าหลัก แล้วไปบริเวณริมแม่น้ำ ทางซ้ายมือจะมีที่ตั้งประดิษฐสถานของเจ้าแม่ทับทิมแยกออกมาต่างหากอยู่

                องค์เทพเจ้าโจวซือกง หรือหลวงปู่โจวซือกง มีอีกชื่อหนึ่งว่า พระหมอ เป็นที่เคารพศรัทธาเป็นอย่างมากของชาวฮกเกี้ยน ตามประวัติเรื่องเล่านั้น ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อหมิงกง ได้ทำการเผยแพร่ธรรมะและรักษาผู้เจ็บป่วยไปทั่วทั้งดินแดน จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทุกแห่งหน เอกลักษณ์ของรูปประดิษฐสถานของหลวงปู่โจวซือกงนั้นจะมีความแตกต่างจากรูปประดิษฐสถานองค์อื่น ๆ เพราะจะมีลักษณะเป็นสีดำทั้งองค์ ต่างจากองค์อื่นที่จะเป็นสีทอง เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญทางสถาปัตยกรรมที่ควรจะอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญหาย

                ใครที่อยากจะไปกราบไหว้ขอพร ไม่เพียงแค่ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่เทพเจ้าที่ประดิษฐสถานอยู่ที่ศาลเจ้าโจวซือก๋งแห่งนี้ ยังสามารถให้พรได้ทั้งโชคลาภ, การงาน, การเงิน และสิ่งที่หวังปรารถนาเอาไว้อีกด้วย เรียกได้ว่าไปที่เดียวอิ่มบุญอิ่มใจกันอย่างครบถ้วน และถ้าอยากอิ่มท้องก็สามารถเดินผ่านไปยังบริเวณตลาดน้อย ที่มีร้านรวงเปิดขายของกินอีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ขนมครกตำรับไทย ขนมครกกะทิล้วนไม่มีไส้ แต่อร่อยเด็ดอย่าบอกใคร หรือจะเป็นเป็ดตุ๋นชื่อดังที่มีคนเข้าร้านไม่ขาดสาย แต่แนะนำให้ไปวันธรรมดานะครับ เพราะร้านค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะเปิดอิงตามวันทำงานของราชการนั่นเอง

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

•