- Travel
พาชมความงาม อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก ชื่อแปลกแต่อลังการ
By Sanook D Pipat • on Dec 07, 2018 • 3,600 Views
สมุทรสงคราม.. เป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ เพราะเดินทางไม่ไกลและมีบรรยากาศความสวยงามของวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งสถานที่หลายคนมักไปเยือนนั่นคือ ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา…แต่วันนี้เราไม่ได้จะรีวิวตลาดอัมพวา แต่จะพาทุกคนออกเดินทางเลยตลาดน้ำอีกนิดไปยังตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จ.สมุทรสงคราม ที่นี่มีความงดงามของโบสถ์คริสต์เก่าแก่ ที่อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสด้วยตาของตัวเอง
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก เป็นโบสถ์คริสต์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1890 หรืออายุเกือบ 128 ปี เป็นสถาปัตยกรรมงดงามแบบกอธิค ภายนอกของโบสถ์เป็นสีขาว มีคราบสีดำเทาแต่งแต้มตามกาลเวลาที่ล่วงผ่านเลย ด้านบนเป็นหอระฆังสูง ซึ่งระฆังนี้ยังคงตี
บอกเวลาและช่วงแห่งการทำพิธี
การก่อสร้าง เริ่มขึ้นในปี 1890 โดยมีบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ก่อตั้ง โบสถ์แห่งนี้ใช้อิญเผาในก่อขึ้นและผนังใช้น้ำเชื่อมจากอ้อยตำผสมกับปูนฉาบเป็นผนัง ด้านบนของโบสถ์มีกระจกส่องแสงที่ประดับด้วยกระจกสีเป็นลวดลายตามพระคัมภีร์ ความพิเศษของกระจกนี้เป็นกระจกสีที่นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส อันเป็นต้นกำเนิดของศิลปะแบบกอธิค
กระจกสีแต่ละบานเมื่อต้องแสงพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามาให้ความรู้สึกของความเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยส่วนใหญ่เรื่องเล่าของกระจกสีภายในโบสถ์แห่งนี้จะเกี่ยวข้องกับพระนางมารีอา พระแม่ผู้ให้บังเกิดองค์พระเยซู สาเหตุที่โบสถ์คริสต์สไตล์กอธิคส่วนใหญ่ใช้กระจกสีในการบอกเล่าเรื่องราว เพราะในยุคศิลปะกอธิค ไม่ค่อยนิยมทำงานจิตรกรรมแบบภาพเขียนฝาผนังและเน้นการออกแบบกระสีบานหน้าต่าง ส่วนถ้าเป็นงานสถาปัตยกรรมจะเน้นการปั้นเป็นรูปคน รูปเทพในแบบที่เสื้อผ้าพลิ้วไหวงดงามแทน
ภาพสลักรูปพระเยซูตรึงไม้กางเขน งดงามและมีรายละเอียดมาก ซึ่งภาพนี้เป็น เหตุการณ์ที่พระองค์ทรงเสียสละพลีชีพเพื่อไถ่บาปให้มวลมนุษย์ คัมภีร์ไบเบิ้ลภาคพันธสัญญาใหม่ ได้ระบุว่าก่อนพระองค์สิ้นพระชนมพ์ได้ตรัสว่า ‘พระบิดาเจ้าข้า ข้าพระองค์ฝากวิญญาณจิตของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์’ เป็นการกลับสู่ดินแดนแห่งพระเจ้าและหลังจากนั้น 3 วันพระองค์ก็ฟื้นจากการสิ้นพระชนม์ ที่ชาวคริสต์เรียกวันนั้นว่า วันอีสเตอร์
ภายนอกว่างดงามอลังการแล้ว ข้างในตื่นตะลึงยิ่งกว่า เพราะจะพบกับโถงของโบสถ์ที่ตกแต่งอลังการราวกับเป็นท้องพระโรงของพระราชวังด้านบนประดับลวดลายสลักและปูนปั้นสีทอง บานหน้าต่างกลมๆและโค้งนับสิบที่สร้างด้วยสัดส่วนแบบคำนวนเป๊ะๆ ทำให้เราต้องทึ่งกับฝีมือช่างและสถาปนิกในยุคร้อยกว่าปีที่แล้ว เบื้องหน้าเป็นแท่นบูชาสำหรับทำพิธีและเก้าอี้ที่เรียงรายสำหรับคริสตชนที่มาทำพิธี…ที่นี่ยังคงมีชีวิตและเปิดใช้งานตามปกติแม้กาลเวลาจะล่วงผ่านเลยมาเป็นร้อยปีก็ตามแต่ด้วยความใส่ใจและบูรณะบำรุงมาต่อเนื่องทำให้โบสถ์ยังอยู่ในสภาพเหมือนใหม่
หันหลังกลับไปเราจะเห็นบันไดวนเล็กๆไต่ขึ้นไปยังระเบียงชั้น 2 ของโบสถ์ที่ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปด้านบน
ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าชม เนื่องจากเป็นพื้นที่ทางศาสนาจึงควรให้ความเคารพสถานที่,แต่งกายสุภาพ,ไม่ส่งเสียงดัง หลีกเลี่ยงการมาเที่ยวในวันจันทร์และวันอังคาร เพราะมีการทำพิธีสำคัญ ช่วงเวลา 12.00น. โบสถ์จะปิดให้เข้าชมชั่วคราวและจะเปิดอีกครั้งช่วงบ่าย
ด้านนอกของโบสถ์จัดเป็นสวนสวยงามร่มรื่น มีรูปปั้นเด็กรายล้อมพระเยซู สะท้อนให้เห็นความเชื่อ ความศรัทธาและความรักของพระเจ้าที่อยู่ในทุกหนแห่ง ใกล้กันนั้นยังสามารถเดินไปริมแม่น้ำแม่กลองนั่งพักผ่อน ชมวิวให้หายเหนื่อยได้อีกด้วย
สำหรับใครที่สงสัยว่า โบสถ์ที่สวยงามแห่งนี้ทำไมตั้งชื่อแปลกจัง ความจริงแล้วคำว่า บางนกแขวก เป็นชื่อของตำบล มีประวัติท้องถิ่นเล่าว่า แต่เดิมนั้นพื้นที่แห่งนี้เรียกว่าตำบลบ้านโพธิ์งาม แต่ด้วยความที่มีนกแขวกอาศัยอยู่มากทำให้ชาวบ้านจึงเปลี่ยนจากโพธิ์งาม เป็นบางนกแขวกและใช้นกเป็นสัญลักษณ์ของตำบลแทน พื้นที่ของบางนกแขวกติดริมฝั่งแม่น้ำมีความอุดมสมบูรณ์ งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาจากอัมพวาได้เลย หรือสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปอำเภอดำเนินสะดวกของจ.ราชบุรี ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกันได้ด้วย
ข้อมูลการเดินทาง จากสมุทรสงครามให้ใช้ถนน สมุทรสงคราม-บางนกแขวก (เส้นทางเดียวกับอุทยาน ร. 2) เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร อาสนวิหารแม่พระบังเกิดอยู่เลยแยกสะพานสมเด็จพระอัมรินทร์ไปประมาณ 100 เมตร สอบถามข้อมูลการเข้าชมและติดต่อวิทยากร โทร. 0 3476 1347 หากใครกลัวหลงสามารถตาม Location นี้ได้เลย >>>
ABOUT THE AUTHOR
Sanook D Pipat