ช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมาก็เป็นหนึ่งในผู้กล้าที่อาจหาญฝ่ารถติดไปเที่ยวกับเขาอยู่เหมือนกัน แต่เที่ยวนี้ขอกล้าเบาๆ ไปเที่ยวใกล้ๆ แค่ อ.สวนผึ้ง ราชบุรี นี่ก็พอ เพราะด้วยความงานรัดตัวทำให้เตรียมการสำรวจที่พัก จองสถานที่ในเวลาไม่นานนัก แต่โชคดีว่าได้สถานที่จากเพื่อนแนะนำมา ซึ่งมันสวยงามใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ อย่างที่ต้องการเลยล่ะ วันนี้ก็เลยจะมารีวิวให้คุณผู้อ่านได้รู้จัก เผื่อว่าใครคิดจะไปเที่ยวสวนผึ้ง แล้วกำลังหาที่พักดีๆ บรรยากาศได้ทั้งครอบครัว คู่รัก และแคมป์ปิ้ง ในที่เดียว ได้แก่ ที่ “ไร่ภูเคียงธาร สวนผึ้งราชบุรี”

ไร่ภูเคียงธาร

ไร่ภูเคียงธาร อยู่ที่ ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โอบล้อมไปด้วยขุนเขา และสายน้ำลำธารจากเทือกเขาตะนาวศรีที่ไหลลงมา การเดินทางนั้นถ้าใครเคยไป Scenery สวนผึ้งก็มาทางเดียวกันนั่นแหละแต่ขับลึกเข้ามาอีกไกลทีเดียว สำหรับที่พักของที่นี่นั้นมีทั้งแบบแคมป์ปิ้ง บ้านพักเป็นหลังสำหรับ 1 ครอบครัว และแบบหลังใหญ่มาเป็นหมู่คณะก็มี สารภาพว่าจำไม่ได้ว่ามีกี่หลัง แต่มีหลายหลังทีเดียวในรูปแบบบ้านพัก ซึ่งก็ยังแบ่งเป็นแบบบังกะโล และสไตล์ยุโรปวินเทจด้วย มีทั้งน้ำอุ่น แอร์ปรับอากาศ ตู้เย็น เรียกได้ว่าถ้าใครชอบมาพักแบบห้าดาว ที่นี่ก็มีไม่แพ้กัน

โดยในส่วนของแคมปปิ้งนั้น ทางที่พักเองก็มีบริการเต้นท์ให้ หรือใครจะพกพามาเองก็ได้ ที่เลิศเลยก็คือ บริเวณจุดตั้งแคมป์นั้นมีบริเวณริมลำธาร ข้างลำธารกันเลยทีเดียว โดยลำธารนั้นจะไกลผ่านเนินทรายเลาะด้านข้างรีสอร์ทไปตามแนวน้ำ สวยงามทีเดียว

อย่างที่เกริ่นไว้ว่า รีสอร์ทแห่งนี้มีลำธารไหลผ่านเลาะล้อมรอบ ดังนั้น ก็เป็นอีกเสน่ห์หนึ่งของที่พักแห่งนี้ ซึ่งใครก็สามารถลงมาเล่นน้ำใสๆ ได้เลย น้ำค่อนข้างเย็นทีเดียวกับการเล่นในช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นสบาย หินก็ไม่ได้เล็กแหลมคมขนาดเดินไม่ได้ เมื่อเลาะไปเรื่อยๆ ก็อาจจะต้องหลบให้กับขบวนเรือแคนนูบ้าง ที่มีนักท่องเที่ยวมาเล่น (เสียดายว่าไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะตัวเปียกอยู่) แต่ก็สนุกได้กับชิงช้าริมลำธาร ผลัดกันผลักหลังให้เพื่อนเตะน้ำสะบัดใส่หน้ามันสนุกไปเลย

ถ้าเห็นว่าอยู่กลางหุบเขาแบบนี้ จะหาอาหารทานลำบากก็บอกเลยว่าไม่ เพราะคุณจะถูกขุนจนอ้วนทีเดียว เพราะที่นี้เขาต้อนรับแขกด้วย “หมูกระทะ” จ้า!! กางโต๊ะกินกันท่ามกลางบรรยากาศเย็นๆ ของหุบเขากันเลย แม้จะมืดไปหน่อย หมู ไก่ หรือหมึก ก็อาจจะดูกันไม่ค่อยออก แต่อากาศเย็นสบายกับความครื้นเครงก็ทำให้เราไม่แคร์แล้วว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง ย่างกันไป จิ้มกันไป อร่อยลืมหนาวเลยทีเดียว

นอกจากมื้อเย็นจะอิ่มกันเต็มที่แล้ว มื้อเช้าก็ยังมีข้าวต้ม ขนมปังปิ้ง ไข่ดาวไว้บริการด้วย เสียดายแค่ไม่ได้ถ่ายมาอีกเช่นเคย ก็อร่อยจนลืมเก็บภาพมานี่แหละจ๊ะ เรียกว่ามาพักกันแบบไม่อดตายแน่นอน

‘แก่งส้มแมว’ ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

และก่อนเดินทางกลับ เราขอแว่บไปอินกับธรรมชาติให้มากกว่านี้ ด้วยการแวะไปยลโฉมนกยูงเผือกกลางป่า ที่เขาว่ากันว่างดงามนักที่ “แก่งส้มแมว” หรือศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กันสักหน่อย

มาถึงได้ไม่นานเจ้าบ้าน ก็ออกมาต้อนรับเป็นขบวนเลยทีเดียว นกยูงสีขาว งดงามเกินกว่าที่เราจินตนาการทีเดียว แถมยังมีเสียงกู่ร้องดังจากในป่าเข้ามาด้วย สารภาพว่าเพิ่งเคยได้ยินเสียนกยูงร้องดังๆ เป็นครั้งแรก มันก้องกังวานเหมือนกับเจ้าบ้านตะโกนร้องต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยวทั่วสารทิศที่เดินทางมาเยือนเลยล่ะ

เดินทางจากที่พักมาเกือบ 20 กิโลเมตร ไม่ได้แค่ขึ้นมาชมนกยูงเผือกเท่านั้นหรอก แต่แน่นอนว่าความงามของแก่งส้มแมวที่เลื่องลือที่สำคัญก็คือ สายน้ำตกหลายชั้น ที่ยิ่งเดินยิ่งสวย บางส่วนอาจจะแห้งไปบ้าง แต่ยังคงความงามตามธรรมชาติไว้ครบถ้วนทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ โขดหิน สายน้ำลำธารทั้งแก่งเล็กแก่งใหญ่ เรียกได้ว่าเดินเพลินลืมน่องกันเลยทีเดียว

สุดท้ายถ้าอยากไปเที่ยวในบรรยากาศหนาวๆ แต่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนักเราก็ขอแนะนำ สวนผึ้ง ราชบุรี และแวะมาพักที่ ไร่ภูเคียงธาร ได้เลย คุณลุงคุณป้าเจ้าของสถานที่ใจดี และพนักงานก็น่ารักทีเดียวจ๊ะ .

สนใจติดต่อที่พักได้ที่ Facebook ไร่ภูเคียงธาร สวนผึ้ง ราชบุรี

Copyright© Bsite.In