- Travel
ปิดอ่าวมาหยาไม่มีกำหนด เมื่อสวรรค์บนดินกำลังฟื้นตัว ความงดงามกำลังกลับมา
By Sanook D Pipat • on Dec 07, 2018 • 2,869 Views
อ่าวมาหยา ในเขตจังหวัดกระบี่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกสวรรค์บนดินที่นักเดินทางทั่วโลกอยากมาสัมผัสความงดงาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปิดท่องเที่ยวอย่างไม่มีกำหนด เพื่อฟื้นฟูสภาพให้กลับมางดงามดังเดิม โดยล่าสุดมีอัพเดทความคืบหน้าและสัญญาณที่ดีว่า ธรรมชาติในอ่าวมาหยาเริ่มฟื้นตัวแล้ว
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ขยายระยะเวลาปิดการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ระบุว่า ด้วยสภาพความเสื่อมโทรมจึง ไม่อนุญาตให้ประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวหรือดำเนินกิจกรรมใดๆ ในบริเวณอ่าวมาหยาและอ่าวโละซามะ ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เดิมทีมีกำหนดปิดชั่วคราวแค่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน 2561 แต่จากการพิจารณาพบว่าระบบนิเวศยังไม่คืนความอุดมสมบูรณ์ จึงให้ปิดจนกว่าทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ
หากย้อนกลับไปในปี 2000 อ่าวมาหยา โด่งดังมากขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง The Beach นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, ทิลดา สวินตัน เรื่องราวของนักท่องเที่ยวอเมริกาที่มาเที่ยวแบคแพคในเมืองไทย และได้ออกเดินทางไปเกาะแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสวยงามและไร้กฎเกณฑ์แต่อีกด้านกลับมีความมืด ยาเสพติดและอาชญากรรมแฝงเร้นอยู่ โดยปักหลักถ่ายทำที่อ่าวมาหยาเป็นเวลานานกว่า 3 เดือนและส่งผลปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จนกลายเป็นคดีฟ้องร้อง
..กระแสของหนังทำให้นักเดินทางทั่วโลกอยากมาเห็นโลเคชั่นด้วยตาตัวเอง ความสวยงามของอ่าวมาหยาอยู่บริเวณเวิ้งรูปพระจันทร์เสี้ยวตัดกับน้ำสีเขียวอมน้ำเงินของทะเล หาดทรายขาวละเอียด มีปะการังที่งดงาม แต่กลับเสื่อมโทรมเพราะน้ำมือของนักท่องเที่ยวและธุรกิจท่องเที่ยว ที่ทำให้ความงดงามนั้นหมดไปจนต้องเร่งฟื้นฟู
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม หนึ่งในคณะทำงานทีมวิจัยกรมอุทยาน&ม.เกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊คถึงเรื่องราวที่น่ายินดีเกี่ยวกับการคืนสภาพของอ่าวมาหยา โดยระบุว่าขณะนี้บริเวณอ่าวมีฉลามมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 50 ตัว ขนาดของฉลามตั้งแต่ 50-150 เซนติเมตร เกือบทั้งหมดขนาดยาวเกิน 1 เมตร
และมีฉลามให้กำเนิดลูกด้วยโดยมีการประสานกับผู้เชี่ยวชาญฉลามระดับโลก ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่อ่าวมาหยาจะเป็นแหล่งคลอดลูกและอนุบาลของฉลามครีบดำที่สำคัญมากเพราะมีไม่กี่แห่งบนโลก แต่ยังไม่ยืนยันได้ว่าเป็นฉลามที่เข้ามาตามฤดูกาลหรือเข้ามาถาวร
ดร.ธรณ์ โพสต์ระบุว่า นอกจากนี้ยังพบว่าปะการังทั่วไปเริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยปัญหาหลักที่ส่งผลต่อปะการังในอ่าวมาหยาคือจำนวนเรือที่เข้ามาในอ่าวมาก แต่เมื่อมีการปิดไม่ให้เรือเข้าธรรมชาติก็ฟื้นคืนอย่างน่าอัศจรรย์
สำหรับแนวทางรับมือปัญหานักท่องเที่ยวในระยะยาวนั้น อันดับแรก ติดตั้งทุ่นบอกเขต ไม่ให้เรือเข้ามาในอ่าวมาหยาเป็นเขตห้ามเรือเข้าถาวร มีการวางแผนทำท่าเรือเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ทางด้านหลัง และทางเดินในป่าชายหาดเพื่อลดผลกระทบจากการขึ้นเที่ยวบนบก เมื่อถึงเวลาที่เปิดให้เที่ยวได้แล้วจะมีระบบควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยว เช่น การเข้าไปเป็นรอบ แต่ละรอบมีจำนวนคนที่จำกัดไว้ชัดเจนเพื่อไม่ให้ธรรมชาติและระบบนิเวศได้รับผลกระทบ ขณะนี้กรมอุทยานฯ กำลังอยู่ระหว่างจัดทำแผน
เมื่อไม่มีเรือ ฉลามก็ยังอยู่ ปะการังก็เติบโต นักท่องเที่ยวก็เดินอยู่บนฝั่ง ตามเส้นทางที่อุทยานกำลังจัดทำอยู่ เพราะฉะนั้น นักท่องเที่ยวกับฉลามหรือปะการังไม่ส่งผลกระทบต่อกัน
“อย่างที่พวกเราช่วยกันทำมาหลายปี ความร่วมมือของชาวพีพี กรมอุทยาน และนักวิจัย กำลังส่งผลที่ยิ่งใหญ่
เป็นผลบวกๆๆ ต่อประเทศไทย และบวกๆๆๆ ยิ่งกว่า เพราะนี่คือการรักษาสมบัติของชาติครั้งสำคัญ
เพื่อแก้ตัวในสิ่งที่เราเคยทำผิดต่อทะเล ทำลายมรดกของลูกหลาน” – ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ภาพจากเฟซบุ๊ค Thon Thamrongnawasawat
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sanook D Pipat