- Travel
โป่งลึก-บางกลอย นอนกลางป่า อาบแสงดาว-วิถีชีวิตปกากะญอแห่งเพชรบุรี
By Sanook D Pipat • on Dec 21, 2018 • 9,937 Views
โป่งลึก-บางกลอย ชื่อนี้หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอกว่าคือ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก็คงจะรู้จักกันดี โป่งลึก บางกลอย คือชื่อของสองหมู่บ้านในเขตพื้นที่อุทยาน ลึกเข้าไปราว 30 กิโลเมตรแต่ใช้ระยะเวลาเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง ที่หมู่บ้านเป็นฐานที่ตั้งของหน่วยตชด. แต่ยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปกางเต็นท์ดื่มด่ำกับธรรมชาติของป่าและแม่น้ำ
การเดินทางเข้าโป่งลึก บางกลอย ต้องใช้รถโฟร์วีล มีถนนทำเป็นทางไม่ลำบากมากนัก บางช่วงของเส้นทางผ่านห้วยและลำธาร รถยนต์และมอเตอร์ไซค์เข้าถึงได้ แต่ในช่วงฤดูฝนเส้นทางอาจจะลำบาก ไม่เหมาะแก่การเดินทาง ระหว่างทางไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ และตัดขาดจากสัญญาณโทรศัพท์
เส้นทางระหว่างการเดินทางผ่านลำธารเล็กๆ ในแบบที่รถข้ามได้สบาย ลำธารเล็กๆนี้จะไหลไปรวมกับแม่น้ำเพชรบุรี ไหลลงสู่เมือง บริเวณดินริมลำธารในบางช่วงจะมีฝูงผีเสื้อลงมาเกาะกินความเค็มตามดิน เมื่อรถวิ่งผ่านผีเสื้อก็จะบินฟุ้งกระจายราวกับอยู่ในโลกแฟนตาซี
รถพาเราขึ้นมาริมเขามองเห็นหมู่บ้านโป่งลึกบางกลอยอยู่ด้านล่าง เห็นสะพานแขวนสีขาวซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขา มีแม่น้ำเพชรบุรีผ่ากลาง ตรงนี้เป็นจุดชมวิวยอดฮิต ที่หากใครดั้นด้นเข้ามาในนี้แล้ว อย่าลืมมาถ่ายภาพและซึมซับบรรยากาศเด็ดขาด
ผ่านป้ายหมู่บ้านเขียนว่า สู่แดนเปอโผล่ง แม่น้ำพริบพรี คำว่าพริบพรี เป็นภาษาดั้งเดิมใช้เรียกจังหวัดเพชรบุรี สายน้ำหลักของหมู่บ้านคือแม่น้ำเพชรบุรี ไหลจากต้นน้ำในป่าสู่เมือง จากจุดนี้ไปถึงลานกางเต็นท์ไม่ถึง 10 นาที การรอนแรมกลางป่าให้จะถึงที่หมายแล้ว
เมื่อถึงที่หมายก็จัดแจงเรื่องที่พักกางเต็นท์เรียงเป็นแถว ใกล้กับที่พักสามารถเดินไปที่ริมแม่น้ำเพชรบุรีได้ รวมถึงมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยว มีจุดชาร์จแบต แต่ไม่มีสัญญาณ จะมีบ้างบางครั้งแต่ก็ใช้ติดต่อไม่ได้สะดวกนัก
ใกล้กันกับจุดกางเต็นท์มีฝูงนกกระยางมาหากิน จับปลาและหอยที่ริมน้ำมาเป็นอาหารทำให้เห็นความอุดมสมบูรณ์และช่วยให้จุดตรงนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น
ชาวบ้านตัดไม้ไผ่มามัดรวมกันเป็นแพ ใช้ไผ่แพละ10ค้น สามารถนั่งได้ 3-4 คน มีคนใช้ไม้ค้ำถ่ออยู่หัวแพ ล่องไปตามกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อุทยานจักเตรียมไกด์คอยแนะนำ รวมถึงมีเสื้อชูชีพไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยเพื่อความปลอดภัย
ความใสของแม่น้ำเพชรบุรีสะท้อนกับสีฟ้าและสีเขียวของป่าไม้ทำให้สีน้ำสะท้อนกลายเป็นสีเขียวอมฟ้าสวยงามราวกับอยู่ต่างประเทศ น้ำใสไหลแรงลงสู่เมือง ในอดีตเส้นทางน้ำเป็นเส้นทางสัญจรของชาวปกากะญอล่องไปสู่ตัวเมืองเพชรบุรีด้วยแพไม้ไผ่ที่ทำขึ้นเอง
เด็กๆชาวกะหร่าง กำลังฝึกหัดเป็นมัคคุเทศก์ประจำชุมชน คอยต้อนรับและสร้างรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยว การพูดคุยกับน้องๆเป็นไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ เราแลกเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยกัน คนเมืองอยากรู้ว่าคนพื้นถิ่น อยู่อาศัยอย่างไรท่ามกลางธรรมชาติ ในขณะที่เด็กๆก็ตื่นเต้นกับคนจากในเมืองที่บอกเล่าสิ่งที่พวกเขาไม่เคยไปสัมผัสด้วยตัวเอง
ต้นไม้ใหญ่ เอนเข้าหาริมแม่น้ำพริบพรี หรือแม่น้ำเพชรบุรี ความสดชื่นของสายน้ำและความเขียวของธรรมชาติช่วยเยียวยาจิตใจที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ที่แห่งนี้ตัดขาดจากโลกภายนอกทำให้เราลืมเรื่องงานและปัญหาต่างๆทิ้งลอยตามน้ำไปด้วย
แพไม้ไผ่ล่องจากต้นน้ำมาถึงสะพานแขวนกลางหมู่บ้านที่ทำเป็นท่าเทียบ เด็กๆ ชาวปกาเกอะญอ ขับรถมอเตอร์ไซค์มาดูนักท่องเที่ยวที่ล่องแพผจญภัยมาจนถึงหมู่บ้าน
สะพานแขวนข้ามแม่น้ำ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของหมู่บ้าน เป็นจุดเชื่อมระหว่างหมู่บ้านโป่งลึกและบางกลอย ทางข้ามแบ่งให้คนเดินได้สองข้างทางและเลนตรงกลางสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ขับผ่าน ไม่สามารถเอารถยนต์มาข้ามได้ ชาวบ้านใช้เส้นทางนี้สัญจรเป็นประจำ จากจุดตรงนี้มองเห็นวิวแม่น้ำและภูเขาได้อย่างเต็มตา
หลังหมู่บ้านมีทุ่งนาเล็กๆ เมื่อพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าส่องแสงสีทองมาฉาบทั่วพื้นที่ ทุ่งนาข้าวก็กลายเป็นสีเหลืองทองสวยงาม ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวแล้วมัดเป็นรวงรวมกันไว้
บ้านไม้ไผ่ถูกสานขัดกันจนเป็นผนังและมุงด้วยใบไม้ ความเรียบง่ายท่ามกลางป่าสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวปกากะญอที่ใช้ชีวิตอยู่และผืนป่าแห่งนี้นับร้อยปี แม้โลกภายนอกจะเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความเจริญทางวัตถุ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนที่นี่ไปได้เลยวันเวลาที่นี่ยังคงหมุนเดินอย่างช้าๆ
อาหารการกินในโป่งลึก-บางกลอย จะเป็นอาหารกะหร่าง ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ที่นี่ โดยส่วนใหญ่จะกินแบบง่ายๆ เอาหัวปลีมาทอดมัน ผักสดจิ้มน้ำพริก ไข่เจียวหัวปลี แกงไก่ใส่หัวปลี และไก่ทอดสมุนไพร เป็นรสชาติที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความอร่อย
ความเก๋ของที่นี่คือมีไร่กาแฟ ที่ให้เมล็ดกาแฟสด นำมาคั่วหอมๆ บดละเอียดให้เป็นผงตั้งน้ำร้อนลงกา ให้รสชาติและความหอมสดชื่น คลายความง่วงได้เป็นอย่างดี ใครชอบวิถีฮิปสเตอร์แบบนี้ ต้องมาลองสัมผัสกาแฟสดที่ปราศจากการปรุงแต่งและไร้สารพิษ
ด้วยพื้นที่ของโป่งลึกบางกลอย มีการปลูกกล้วยเยอะ ชาวบ้านจึงนำมาแปรรูปเป็นกล้วยอบ กล้วยทอดกรอบ ใส่ผงปรุงรสเค็ม หวาน บาร์บีคิว วางขายในหมู่บ้านและส่งไปขายในตลาดข้างล่างเป็นการเพิ่มรายได้ ใส่ห่อสวยงามเพิ่มมูลค่าให้กับกล้วยที่เป็นผลไม้ท้องถิ่นเป็นสินค้าแปรรูป
ในยามค่ำคืน ชาวบ้านจะมารวมตัวแสดงดนตรีมีทั้งแคน ซอ และพิณ แต่ละคนร้องด้วยสำเนียงของกะหร่าง เนื้อหาที่เราฟังไม่ออกแต่ชาวบ้านก็ช่วยกันแปลมีทั้งเพลงชีวิตและเพลงรัก นักดนตรีสูงอายุแห่งปกากะญอเล่าว่า ชีวิตในป่าที่แสนสงบเงียบยามค่ำคืนก็เกิดเหงาเลยมีการประดิษฐ์เครื่องดนตรีจากวัสดึธรรมชาติมาเล่นร้องเพลงแก้เหงา
ช่วงกลางคืนที่จุดกางเต็นท์จะสามารถมองเห็นดาวได้อย่างชัดเจนเพราะปราศจากแสงไฟรบกวน หากเป็นคืนฟ้าเปิดและโชคดีเราจะเห็นทางช้างเผือกเป็นแนวยาวพาดผ่านท้องฟ้า อากาศเย็นของผืนป่าทำให้บรรยากาศโรแมนติกถ้าได้มาดูดาวกับคนรัก
มื้อเช้าที่จุดกางเต็นท์ เตาแก๊สที่ใช้แก๊สอัดกระป๋องติดไฟต้มน้ำร้อนให้เดือดพร้อมชงกาแพ อีกเตาตอกไข่ใส่กระทะทำเป็นไข่ดาวร้อนๆเสิร์ฟคู่กับขนมปังปิ้ง มื้อเช้าง่ายๆ ท่ามกลางอากาศเย็นของผืนป่า เป็นการเติมพลังก่อนเดินทางกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง
ทั้งนี้ โป่งลึกบางกลอย กำลังเข้าสู่โครงการ Otop นวัตวิถี
อยู่ระหว่างปรับตัวและพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรม
ใครสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์: 032 471 005
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sanook D Pipat