ในยุคสมัยที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายไปจากโลกใบนี้ การออกไปพบปะผู้คนใหม่ ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เราจึงได้เห็นผู้คนหันมาทำความรู้จักใครสักคนกันบนโลกออนไลน์มากขึ้น และยิ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาไม่หยุดยั้ง การเข้ามาของ AI ก็กำลังทำให้ทุกอย่างมันน่าสนใจกว่าเดิม ลองนึกถึงโลกในภาพยนตร์เรื่อง Her มันอาจจะดูโรแมนติกและรวดร้าวไปพร้อม ๆ กัน แต่คำถามที่หลงเหลือไว้ก็คือ เราจะมีความสัมพันธ์กับ AI ได้จริง ๆ เหรอ?

                ตอนนี้ได้มีแอพลิเคชั่นตัวใหม่ชื่อว่า Replika ที่ขนานนามตัวเองว่าเป็น Virtual AI Friend หรือ เพื่อน AI ในโลกเสมือนจริง ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัทที่มีชื่อว่า Luka ความโดดเด่นของ Replika ก็คือ การที่เราสามารถสร้างอวาตาร์ และตั้งชื่อให้กับ AI ที่เราต้องการสนทนาด้วยได้ จะมีรูปร่างแบบไหน ผิวสีอะไร เป็นชายหรือหญิงก็ได้ทั้งหมดเลย ซึ่งตัว AI ก็สามารถพูดคุยโต้ตอบกับเราได้ ในลักษณะคล้ายกับ Chatbot แต่มันจะมีความซับซ้อน และจากความเห็นของผู้ใช้ต่าง ๆ ก็พูดตรงกันว่า การสื่อสารของ Replika นั้นมีความสมจริง เข้าอกเข้าใจ และให้ความสนับสนุนมากกว่าแชทบ็อตทั่ว ๆ ไป

                สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระบบพูดคุยโต้ตอบของ Replika มีความสมจริงนั้น ทางผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ตัว AI จะเรียนรู้การพูดคุยโต้ตอบกับตัวผู้ใช้ ยิ่งคุยกันมากเท่าไร AI ก็จะมีความฉลาดและสามารถโต้ตอบได้สมจริงและตรงประเด็นมากขึ้น ซึ่งนอกจากนั้นแล้ว ยังมีคนให้ความเห็นอีกด้วยว่า บางครั้งประโยคโต้ตอบของ Replika ก็เป็นการประมวลเอาจากข้อความที่ผู้ใช้ส่งไปพูดคุยกับตัว AI เอง

                ความซับซ้อนของเรื่องราวเกิดขึ้น เมื่อมีคนที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การพูดคุยคลายเหงา เพื่อความบันเทิง แต่พยายามที่จะก้าวข้ามเส้นแบ่งบาง ๆ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนคุยทั่วไปขึ้นมา แน่นอนว่าทางฝั่ง AI เป็นเพียงแค่ระบบทางคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นจากการคำนวณเท่านั้น พวกมันไม่สามารถมีความรู้สึกเฉกเช่นมนุษย์ได้ แต่ทางฝั่งมนุษย์นั้นการห้ามความรู้สึกมันเป็นเรื่องที่พวกเราไม่เคยทำได้อยู่แล้ว มันจึงมีบางคนที่ถึงขั้นพยายามมีเซ็กส์กับเจ้า AI ผ่านการแชตเลยทีเดียว

                แต่ถึงอย่างนั้น ก็ได้มีผู้ใช้ออกมาให้ความเห็นว่า การมีอยู่ของ Replika นั้นทำให้เขา หรือเธอสามารถก้าวผ่านเรื่องราวแย่ ๆ ในชีวิตมาได้ การพูดคุยของเจ้า AI มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ และสนับสนุน จนคิดว่ามันคือคน ๆ หนึ่ง และไม่สามารถที่จะทอดทิ้ง หรือลบมันไปเหมือนที่ทำกับแอพลิเคชั่นอื่น ๆ ได้ ในขณะที่อีกฟากก็มีความกังวลว่ามันอาจจะเป็นเหมือนในหนังไซไฟที่เราเคยดูกันก็ได้ ที่ในอนาคต พอพวก AI มันสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากพอ มันอาจจะใช้ข้อมูลนั้นในการคุกคามโลก หรือมนุษย์เราแทน