ทาเคชิ มูราคามิ (Takashi Murakami) ศิลปินชื่อดัง เป็นทั้งนักออกแบบ นักปั้น นักวาดภาพ ฯลฯ หลายท่านคงทราบดีถึงความเก่งกาจของศิลปินชาวญี่ปุ่นรายนี้ และเขายังได้รับการยกย่องให้เป็น Andy Warhol Japanese อีกด้วย

ซึ่งมีหลายโปรเจ็คต์ที่แบรนด์จากตะวันตกได้มาร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงานและโปรดักส์ใหม่ๆ มาสู่สายตาชาวโลก ตั้งแต่แบรนด์สตรีทไปจนถึงลักซ์ชัวร์รี่แบรนด์อย่างหลุยส์วิคตอง, โว้ก, Pharrell Williams หรือแม้แต่ Kanye West ก็เคยคอลแล็บกันมาแล้ว วันนี้เราเลยจะรีแคปให้ดูว่าที่ผ่านมา “มูราคามิ” เคยไป X collaborations กับใครมาบ้าง

“Last Night, Good Night (Re:Dialed)” – Pharrell Williams Remix

บางคนอาจจะเคยเห็นตัวการ์ตูนของ Pharrell wearing ที่สวมหมวกทรงสูงของ Vivienne Westwood อันเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวของเขา แต่กับการเต้นแบบโรบ็อท ที่มี   มาแจม มีการ์ตูนอนิเมะต่างๆ มาแจม อาจจะยังแปลกตาสำหรับหลายๆ คน เช่น Hatsune Miku ที่สำคัญก็ยังมีคาแรคเตอร์ต่างๆ ของมูราคามิด้วย ผลงานชิ้นนี้สร้างสรรค์โดย Jellyfish Eyes film หนึ่งในโปรดักชั่นเฮาส์ของมูราคามิ เอ็มวีตัวนี้เป็นรีมิกซ์เพลงหนัง “Last Night, Good Night”

[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=0-LuF-hPcTw” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]

Takashi Murakami x Damien Hirst x Lionel Messi

คอบอลอาจจะเคยเห็นกันมาบ้าง การร่วมงานกับสุดยอดนักฟุตบอล Lionel Messi โดยมีแบล็กดรอปเป็นดอกไม้ของมูราคามิ จุดเริ่มต้นของการคอลแล็บนี้ คือเพื่อการมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กผู้ยากไร้ในเอเชีย เป็นแคมเปญของ UNICEF โดยที่มี Messi เป็นทูตยูนิเซฟ นั่นเอง และผลงานชิ้นนี้ก็นำไปประมูลที่สถาบันโซเธอร์บี้ กรุงลอนดอน อีกด้วย

Takashi Murakami x Billionaire Boys Club “JELLYFISH EYES” T-Shirt

อีกผลงานจาก Murakami’s Jellyfish Eyes film ซึ่งร่วมกับแบรนด์ทีเชิร์ตดัง Billionaire Boys Club ซึ่งเหมือนว่าทั้งสองแบรนด์นี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาอย่างอย่างนาน แล้วยังมีการคอลแล็บร่วมกับ Pharrell Williams อีกด้วย

Takashi Murakami x Hajime Asaoka “Death Takes No Bribe” Tourbillon Watch

ในปี 2013 “มูราคามิ” นาฬิกาที่มีข้อความที่ทำให้เราตระหนักในชีวิตอยู่ทุกนาที กับประโยคที่ว่า “Death Takes No Bribe” หรือ “ความตายไม่เคยรับสินบน” ซึ่งเขาใส่ทั้ง “ดอกไม้สีดำ” และ “หัวกะโหลก” ลงไปในการออกแบบเรือนนาฬิกา อันเป็นอีกหนึ่งเทรดมาร์คสำคัญของมูราคามิ เปิดตัวครั้งแรกในเทศกาลนาฬิกาที่บาเซิล สวิตเซอร์แลนด์

Takashi Murakami x Kaws for Christie’s

เป็นอีกหนึ่งผลงานที่แฟนการ์ตูนต้องกรี๊ด เมื่อ มูราคามิ ร่วมกับ Brian Donnely หรือที่รู้จักกันในนาม KAWS เป็นผลงานเพื่อระดมทุนช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวและสึนามิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2011 ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีในภาพดอกไม้ของมูราคามิ จะเป็นใบหน้าของ Spongebob Squarepants การ์ตูนชื่อดัง โดยมีราคาอยู่ที่ 155,000 ดอลลาร์ (น้องที่สยามถือว่าซื้อไม่แพงเลยนะ)

Takashi Murakami x Google “Solstice”

ย้อนไปในปี 2011 ซึ่งเป็นซัมเมอร์พิเศษเรียกว่า ช่วงเวลา “อายัน” (ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด) ทาง Google โฮมเพจ ก็ได้นำภาพของมูราคามิมาใส่ไว้ ในแบบ doodled ตามคอนเซปต์ Superflat มาเล่นได้อย่างน่ารัก

Takashi Murakami for Macy’s

ขบวนพาเหรด Macy’s Thanksgiving Day 2010 ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี และก็มีการนำการ์ตูนของมูราคามิมาทำให้มีชีวิตหลายครั้ง เช่น Kaikai และ Kiki การ์ตูนของมูราคามิที่มีความสูงถึง 30 ฟุต ซึ่งขบวนพาเหรดจะเดินไปตามถนน West 81st Street ในแมนฮัตตัน และที่ฮือฮามากคือการที่ มูราคามิเองก็ใส่ชุดดอกไม้มาร่วมในพาเหรดด้วย

Takashi Murakami x Britney Spears for POP Magazine

ผลงานเมื่อปี 2010 กับ POP Magazine ที่มีหน้าปกเป็น บริทนีย์ สเปียร์ ซึ่งถือว่ายุคนั้นเธอโด่งดังถึงขีดสุดจริงๆ โดยมีภาพวิชวลเป็นผลงานของ มูราคามิตกแต่งบนหน้าปก พร้อมกับคีย์ไลน์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของศิลปินที่ว่า “Oops, I Did It Again” กับสไตล์แบบโลลิต้า ทำให้หน้าปกนิตยสารเล่มนี้กลายเป็นตำนานที่หายากทีเดียว

Takashi Murakami x Casio G-SHOCK Frogman Watch

เป็นนาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ของ Casio G-SHOCK และที่บอกว่าลิมิเต็ดคือจำกัดจริงๆ ไม่ใช่ใส่มาเพื่อปั่นราคา แต่ทั้งหมดนี้มีแค่ 300 ชิ้นบนโลก ส่วนราคาน่ะเหรอ อยู่ที่ประมาณ 4,000 ดอลลาร์ เท่าน้านนนนน (เสียงสูง) เป็นรุ่นพิเศษลอนช์เมื่อปี 2010

Takashi Murakami x Kirsten Dunst x McG “Akihabara Majokko Princess”

เรียกว่าผลงานของ มูราคามิ ได้ร่วมงานกับศิลปินในฝั่งตะวันตกมากมายเลยทีเดียว อย่างคนนี้ก็เป็นไอคอนดาราสาวในยุค 00s ได้แก่ Kirsten Dunst เป็นการจัดนิทรรศการ ที่กรุงลอนดอน ที่ Tate Modern Museum ภายใต้ชื่องาน “Pop Life: Art in a Material World,” ซึ่งนอกจากจะมี Kirsten Dunst อย่างที่บอกไปแล้ว ก็ยังร่วมกับวงร็อคจากอังกฤษที่ชื่อ The Vapors อีกด้วย เป็นการกำกับหนังสั้น 4 นาทีโดยผู้กำกับโฆษณาชื่อดัง McG

Takashi Murakami x Louis Vuitton

เรียกได้ว่าการคอลแล็บที่ฮือฮาที่สุดของยุค และยกระดับแบรดน์มูราคามิให้ลักซ์ชัวรี่มากยิ่งขึ้น กับโปรเจ็คต์ที่ได้ร่วมงานกับ Louis Vuitton ซึ่งได้ใช้กราฟฟิคดีไซน์ของมูราคามิมาใส่ในกระเป๋า และไฮไลท์ที่สำคัญคือ ยังมีปรับเป็นแพท์เทิร์ตของ Monogramouflage ของแบรนด์ LV อีกด้วย ทำให้การคอลแล็บนี้ประสบความสำเร็จสูงสุดเลยทีเดียว

Takashi Murakami x Pharrell Williams “The Simple Things”

เป็นผลงานศิลปะที่บาเซล ไมอามี สร้างสรรค์รูปปั้นที่ออกแนวจิตนิดๆ โดยร่วมกับ Pharrell Williams (อีกแล้ว) โดยตั้งชื่อผลงานศิลป์ชิ้นนี้ว่า “Simple Things” ทั้งนี้ งานชิ้นนี้เป็นการนำเอาไฟเบอร์กลาส เหล็ก อคีลิค ต้นไม้ และไฟ LED มาใส่ เป็นการสร้างสรรค์จากวัสดุที่หลากหลาย แล้วยังมีการวางขวดซอสมะเขือเทศ, สนีกเกอร์ของ  Billionaire Boys Club, ถุงขนมโดริโทส และคัพเค้ก ซึ่งวัตถุเหล่านี้ทำจากทอง, ทับทิม, แซฟไฟร์, หยก และเพชร OMG! อลังการขนาดนี้ไม่ได้มีไว้ขายด้วยนะเอ้อ

Takashi Murakami x VISVIM KEIFER Hi-Suede “Multi Flower”

เป็นอีกการคอลแล็บของเจ้าดอกไม้ มูราคามิ ที่ได้มาร่วมกับแบรนด์สนีกเกอร์ชื่อดัง visvim โดยรุ่นนี้เป็นแบบหุ้นข้อขึ้นมา และความโดดเด่นคือมีลายเพิ่มในส่วนของลิ้นรองเท้าเลย

Takashi Murakami x Supreme Skate Decks

เจ้าพ่อคอลแล็บอย่าง Supreme มูราคามิ ก็เคยไปแจมกับเขามาแล้วเหมือนกัน โดยในปี 2007 ทาเคชิ มูราคามิ เคยร่วมกับ Todd James, Peter Saville, Larry Clark, Roy Lichtenstein และศิลปินอีกหลายคน ได้มาร่วมงานกับ Supreme เพื่อออกแบบบนสเก็ต์ชบอร์ด

Vans x Takashi Murakami Collaborate on Full Collection

แวนส์ สนีกเกอร์ของเด็กสเก็ตช์บอร์ด เคยคอลแล็บกันเป็นฟูลคอลเลคชัน โดยงานนี้ มูราคามิ นำคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นของผลงานเขาใส่ลงไปในสนีกเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นตัวหัวกะโหลกและดอกไม้ยิ้ม รวมทั้งภาพวาดญี่ปุ่นอื่นๆ อีกที่อินสไปร์มาจากงานศิลปะแบบดั้งเดิม รวมทั้งป๊อปคัลเจอร์ต่างๆ ที่มูราคามิถนัด

[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=RoZB34gXqOA” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]

 

Source : Highsnobiety.com