ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วค่ะกับโค้งสุดท้ายของรายการ The Face Men Thailand Season 2 ที่ตอนนี้เดินทางมาถึงตอนที่ 8 กับแคมเปญที่ 7 หลังจากทิ้งความน่าติดตามเอาไว้ในตอนจบรายการเมื่อตอนที่แล้ว ในตอนนี้เดอะ เฟซฯ ก็จัดเต็มทั้งมาสเตอร์คลาส และแคมเปญ กับความเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ รวมทั้งการกลับเข้าสู่เกมของหนึ่งในสมาชิกทีม #MasterLukkade ครั้งนี้จะส่งผลอะไรกับรายการบ้าง วันนี้เรามารีวิวพร้อมกับถอดบทเรียนกันค่ะ

---

การทำงานของมาสเตอร์ และกฎใหม่ที่ไม่ดราม่า?

                เริ่มต้นกันที่ Master Class ของร่างทรงคุณเต้ หรือคุณแม่ลูกเกด คราวนี้มาในแนวกึ่ง Free Running ทดสอบความแข็งแรงของร่างกายและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าแข่ง เหนือกว่าการทำแคมเปญคือการที่มาสเตอร์ลูกเกดเชิญเมนเทอร์ทั้ง 3 คนมาร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมประกาศว่านี่จะเป็นแคมเปญเก็บคะแนนครั้งสุดท้าย ที่จะส่งผลให้หนึ่งในสมาชิกของทีมมาสเตอร์ได้กลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง โดยผลการตัดสินใจทั้งหมดเป็นของคุณแม่ลูกเกดเพียงคนเดียวเท่านั้น

                สิ่งที่น่าสนใจก็คือ กฎการเอาคนที่หลุดออกจากเกมไปแล้วกลับมาในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การปลุกกระแสดราม่าเหมือนที่เคยเกิดขึ้นใน The Face All Star ในมุมมองของเรา การเพิ่มกฎเข้ามาใหม่โดยไม่มีการระบุไว้ตั้งแต่ต้นอาจเป็นเรื่องที่ไม่แฟร์ แต่เมื่อมองในแง่ของการทำงานคือ การทำงานแต่ละครั้งมักจะมีตัวแปรที่ไม่คาดคิดเข้ามามีอิทธิพลเสมอ การปรับตัวและความมุ่งมั่นที่จะเผชิญหน้ากับมันคือ หนึ่งในสิ่งที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ

                ผลการแข่งขันใน Master Class ชัยชนะครั้งนี้ตกเป็นของ ลูอิส จากทีม #MentorSonia แต่คนที่มาสเตอร์ลูกเกดเลือกให้กลับเข้าสู่การแข่งขันคือ วิลเลี่ยม ดาวเด่นของทีมมาสเตอร์ ที่ถูกเลือกให้กลับเข้าสู่ทีมโทนีอีกครั้ง คนที่ดีใจที่สุดรองจาก #MentorToni คงหนีไม่พ้นแบงค์เขาล่ะค่ะคุณ (แซว)

 

---

เลือกคนให้เหมาะกับงาน คำสอนสุดคลาสสิคที่ใช้ได้เสมอ

                ต่อเนื่องเข้าสู่ช่วงของ Campaign ที่ในสัปดาห์นี้เป็นการถ่ายทำ Ad Video มาในแนวของฟรีรันนิ่ง ที่ต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกาย บวกกับแอ็คติ้งการแสดง ด้วยการประกบคู่กับแบรนด์แอมบาสเตอร์ของลูกค้าเจ้าของแคมเปญอย่าง ปู ไปรยา ที่งานนี้แน่นอนว่าไม่ได้ทดสอบแค่ผู้เข้าแข่งขันแต่ยังเป็นการทดสอบตัวเมนเทอร์ด้วย ประเด็นที่เราจะพูดถึงแคมเปญนี้ก็คือ การเลือกคนให้เหมาะกับงาน หรือ Put the right man in the right job คำสอนสุดคลาสสิคที่ใช้ได้ดีเสมอ

                การทำงานของเหล่าเมนเทอร์ทั้ง 3 คนแสดงออกมาให้เห็นชัดผ่านแคมเปญ ด้วยการจัดลำดับลูกทีมของตัวเองให้แสดงตามบทบาทแต่ละขั้นแต่ละตอนของวีดีโอ ซึ่งค่อนข้างตรงจุดเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น

•                 แบงค์ (ทีมโทนี่) ที่ไม่โดดเด่นเรื่องร่างกาย เลยถูกเลือกให้แสดงเปิดที่ต้องเน้นเรื่องใบหน้า แอ็คติ้ง
•                 หมูหยอง (ทีมโทนี่) ที่ไม่โดดเด่นเรื่องการแสดงแบบภาพเคลื่อนไหว แต่มีจุดเด่นที่ร่างกายกำยำ เลยถูกเลือกให้แสดงในบทที่ต้องโชว์ความแข็งแกร่งของร่างกาย
•                 คิม (ทีมหมู) กับใบหน้าที่กล้องรัก จึงถูกเลือกให้เป็นคนถ่ายซีนเปิด ดึงดูดความสนใจด้วยรอยยิ้ม
•                 เรียวตะ (ทีมโทนี่) ด้วยความที่เป็นคนที่มีเอเนจี้ในตัวสูง และอาจจะไม่เก่งกาจเรื่องการแสดงมาก จึงถูกเลือกให้แสดงในฉากที่ต้องใช้พลังทางร่างกายมากกว่า พลังทางอารมณ์
•                 ป็อปปี้ (ทีมหมู) โดดเด่นในเรื่องของการแสดงมากที่สุดในทีม จึงถูกเลือกให้แสดงในฉากที่ต้องใช้ทักษะดังกล่าว พร้อมกับเป็นคนพูดบท

 

                ผลการแข่งขันออกมาว่า ทีมที่ชนะแคมเปญคือ #TeamMoo สร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นเมนเทอร์คนแรกของรายการ The Face ที่สามารถชนะแคมเปญติดต่อกันได้ถึง 4 แคมเปญ แต่นั่นอาจจะไม่สำคัญเท่ากับการที่เราได้เห็น #MentorToni จิกกัดเมนเทอร์หมูเป็นครั้งแรก มันสำคัญยังไงหรอคะ? มันแสดงให้เห็นว่าเมนเทอร์โทนีดูเหมือนจะปรับตัวและมีความสุขเข้ากับรายการได้แล้ว ไม่แน่ว่าเราอาจจะมีโอกาสได้เห็นเขาในซีซั่นต่อ ๆ ไปก็ได้นะคะ

 

---

ความเสี่ยงกับการเพลย์เซฟ Tough Mom ที่อาจมาช้าไปนิด

                หัวข้อสุดท้ายในสัปดาห์นี้เราขอมอบให้กับเมนเทอร์ซอนย่า ที่ดูเหมือนแฟน ๆ จะกังขากับทีท่าที่ค่อนข้างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจาก The Face All Star ทั้งความเฟียส หรือความเป็นตัวแม่ที่ดูดรอปไป แทนที่ด้วยลุคของคุณแม่แสนใจดี เลี้ยงดูลูก ๆ ในทีมพร้อมพยายามให้คิดนอกกรอบ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ประสบความสำเร็จนัก เพราะตลอดทั้งซีซั่นคุณแม่ซอนย่าสามารถพาทีมชนะไปได้เพียงแค่แคมเปญเดียวเท่านั้น ช่วงเวลาเลือกลูกทีมเข้าห้องดำในสัปดาห์นี้เมนเทอร์ซอนย่าจึงมาในลุคแบบ Tough Mom

                ความเด็ดขาดและการแสดงออกที่แสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีความสุขกับผลงานที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เริ่มต้นตั้งแต่การไม่ยอมนั่งลงเพื่ออธิบายข้อผิดพลาดให้กับลูกทีมฟัง หรือการตัดสินใจเลือกให้คัทจังเป็นตัวแทนทีมเข้าสู่ห้องดำโดยไม่อารัมภบทใด ๆ แสดงให้เห็นว่าบางครั้งการใช้ไม้อ่อนเพื่อสนับสนุนทีมอาจไม่ใช่วิธีเดียวในการสร้างผลงาน การใช้ไม้แข็งบ้างก็สามารถเป็นแรงกระตุ้นที่ดีได้เช่นกัน แต่มันก็ชวนให้ตั้งคำถามว่ากว่าจะงัดไม้แข็งออกมาใช้…มันจะยังไม่สายเกินไปเหรอคะเมนเทอร์ซอนย่า

 

---

สรุปนะคะ

                สำหรับการเดินทางต่อเนื่องมาจนถึงตอนที่ 8 ของ The Face Men Thailand Season 2 เหลืออีกเพียง 2 ตอนเท่านั้น รายการสุดแซ่บนี้ก็จะจบลงแล้ว กับการพลิกลุคของรายการจากการเน้นไปที่ดราม่าของเหล่าเมนเทอร์ มาเป็นการทำงานในโหมดจริงจัง พร้อมกับเพิ่มบทบาทร่างทรงของคุณเต้ไว้ที่ มาสเตอร์ลูกเกด เราก็พอจะได้รับรสชาติใหม่ ๆ ของ The Face มาบ้าง สัปดาห์หน้าจะเป็นโค้งสุดท้ายแล้วค่ะของการแข่งขัน มารอดูกันว่าเหล่าเมนเทอร์จะต้องเสียน้ำตากันมากน้อยแค่ไหนกับการเลือกหนึ่งเดียวของทีมที่จะได้ก้าวเข้าสู่ Final Walk

ตามไปด้วยกันจนจบเลยค่ะ

XOXO

---

อ่าน The Face Lessons ตอนอื่น ๆ

Master Mentor คืออะไร? หรือจะเป็นหมากตัวใหม่รีแบรนด์ The Face

The Face Lesson EP.1-2 : เพราะชีวิตจริงคือการแข่งขัน แค่ “แฟร์” อย่างเดียวมันไม่พอ!

The Face Lessons EP.3: ทำดีแล้ว ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำดีกว่าเราไม่ได้

The Face Lessons EP.4: ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะข้ามขีดจำกัดได้ จงยอมรับและพัฒนา

The Face Lessons EP.5: เครื่องมือของความก้าวหน้าคือการเอาชนะความกลัว

The Face Lessons EP.6: อยากยืนหนึ่งเหนือใคร ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ฉลาด

---

ภาพจาก: Facebook Page The Face Thailand

Copyright© Bsite.In

ชีวิตกับปัญหามันเป็นของคู่กัน ถ้าจะพูดว่าการใช้ชีวิตคือการแก้ปัญหาก็คงไม่ผิดนัก

                อ่ะ…อย่าเพิ่งคิดว่าเข้ามาอ่านผิดบทความนะคะ เห็นปลงแบบนี้ทางเราก็ได้มาจาก The Face Men Thailand Season 2 ในตอนที่ 7 กับ แคมเปญที่ 6 ทั้งนั้นล่ะค่ะ เพราะในตอนนี้มาพร้อมกับความเวอร์วังด้วยการแปลงฉากจากละครเพลิงพระนาง ให้กลายเป็นรันเวย์ พร้อมขนพร็อบเป็นน้องม้า, น้องควาย, และน้องช้างมาด้วย เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มสมกับการเป็น Pre-Final Walk

แน่นอนว่าความดุเดือดต้องมาพร้อมกับบทเรียนสุดคูล

สัปดาห์นี้จะเป็นอะไรไปดูกันค่ะ!

 

---

การฉายแสงของวิลเลียม มาพร้อมกับการขายของที่ดูมีคลาส

                แต่ไหนแต่ไรมา The Face ขึ้นชื่อเรื่องการขายของมานานนม แต่สังเกตไหมคะว่าใน The Face Men Thailand Season 2 นี้กระแสคำวิจารณ์เรื่องการขายของดูเหมือนจะสร่างซาไปแล้ว ในความเห็นของเรานั้น การขายของในมาสเตอร์คลาสยังเต็มเปี่ยมอัดแน่นเหมือนเดิม แต่มันดูมีอะไรมากกว่าการให้ผู้เข้าแข่งขันมาขายของกันแบบโต้ง ๆ มันดูมีความคิดสร้างสรรค์ในการเป็นโจทย์ Master Class มากขึ้นกว่าซีซั่นก่อน ๆ เลยทำให้กระแสวิจารณ์เรื่องนี้เบาลงไป หรือไม่คนดูเราอาจจะชินกันจนทำเป็นมองข้ามไปเสียก็ได้ Oops!!

                ความแนบเนียนในการขายของที่เหมือนจะสร้างสรรค์ขึ้นจนน่าชื่นชมก็ยังไม่เท่ากับ วิลเลี่ยม จากทีม #MasterLukkade ในระหว่างที่เขาคนนี้ยังคงอยู่ในการแข่งขัน ความโดดเด่นอาจจะไม่สามารถสู้คนอื่น ๆ ได้ แต่พอถูกคัดออกแล้วย้ายทีมมาอยู่ในการดูแลของมาสเตอร์ลูกเกด อื้อหืม…ดูมีเสน่ห์มากขึ้นเป็นกอง แถมในวีคนี้ยังเก็บเกี่ยวชัยชนะมาครอง คว้าสิทธิพิเศษให้ #TeamToni ไปได้แบบเก๋ ๆ เป็นการฉายแสงเจิดจรัสจนเราอยากลุ้นให้กับมาแข่งอีกรอบจริง ๆ

 

---

Pre-Final Walk ที่วัดทั้งความสามารถของเมนเทอร์และผู้เข้าแข่งขัน

                ถ้าคุณคิดว่าแคมเปญถ่ายภาพใต้น้ำเมื่อแอพิโสดที่แล้วเล่นใหญ่ ขอบอกเลยว่าการเดินแบบที่ยกเอาฉากจากละครเรื่องเพลิงพระนางมารียูสเก๋ ๆ นี้เล่นใหญ่กว่ามาก! เมื่อแค่เดินแบบอย่างเดียวมันไม่พอ รายการเลยจัดเอาพร็อบสุดเวอร์วังมาเสริม ไม่ว่าจะเป็น ม้า, ควาย หรือ ช้าง พร้อมกติกาการเดินคู่กับพร็อบ, การเดินแบบ Battle หรือการเดิน Finale ที่ทั้ง 3 เมนเทอร์ต้องระดมสมองครีเอทกันออกมาเอง

คุณพระคุณเจ้า! นี่เล่นใหญ่เหมือนเป็นแคมเปญสุดท้ายเลยนะคะคุณ!

               

               เริ่มต้นที่สิทธิการจัดแบ่งทีมในแคมเปญนี้กันก่อน หมูหยองได้รับสิทธิจากวิลเลียมในการกำหนดชะตากรรมทุกคน เขาได้ใช้กลยุทธ์ปิดหัวปิดกลางปิดท้าย จัด 3 คนที่เหลือในทีม Toni ให้ผ่านสายตากรรมการในทุกช่วง เป็นกลยุทธ์ที่ดีค่ะ แต่ก็เสี่ยงไม่น้อย เพราะถ้าโชว์เปิดและปิดทำได้ดีก็ดีไป แต่ถ้าทำได้พัง หรือคนที่ตามมาทำได้ดีกว่าก็จมเอาได้ง่าย ๆ

                ต่อมาด้วยการเดินแบบคู่กับสัตว์ทั้ง 3 ชนิด แน่นอนว่า มงลง ไปที่ ป็อปปี้ จาก #TeamMoo แบบไม่ต้องสงสัย ที่แม้ว่าการเดินแบบอาจจะไม่ได้สมบูรณ์นัก แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อ ‘พ่อใหญ่’ หยุดเดินกลางแคทวอล์ค กับการแสดงความรักความเชื่อใจออกมา พร้อมขึ้นไปนั่งบนงาช้าง(เป็นคนแรก) เท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะที่จะสร้าง Wow Factor ให้ทั้งกรรมการและผู้ชมอย่างเรา ๆ เทใจให้เขาชนะได้อย่างไม่ค้านสายตา

                ผลแย่เลยไปตกกับหมูหยองที่วางแผนมาอย่างดี แต่ดั๊นได้โชว์คนท้าย ๆ การขึ้นไปนั่งบนงาช้างเลยไม่ใช่ Wow Factor อีกต่อไป สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนจากการทำแคมเปญนี้ก็คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ การมีสติในการทำงานที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา คือคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้คุณสามารถยืนหนึ่งเหนือใคร ๆ ได้จริง ๆ

 

---

การจับเมนเทอร์มาทำงานร่วมกัน คือก้าวใหม่ที่สวยงามของ The Face

                ขอปาดน้ำตาด้วยความซาบซึ้งก่อนเลยค่ะ จากที่เราติงด้วยความห่วงใยไปใน The Face Lessons EP.5 ว่า The Face Men Thailand ซีซั่นนี้มีครบหมดทั้งความยากของแคมเปญ และดราม่าของเมนเทอร์ แต่สิ่งที่ทำให้รายการไม่ว้าวเท่าเก่าในสายตาเราคือการขาดความแปลกใหม่ ซึ่งเหมือนว่าเราจะต้องขอคืนคำพูดนั้นแล้ว โดยในตอนล่าสุดนี้พวกเขาเลือกจะหยิบเอาเมนเทอร์ที่ควรจะต้องฆ่าฟันกันสุดฤทธิ์มาทำงานร่วมกัน ในการคิดโชว์ Finale ปิดแคมเปญ และผลมันออกมาดีมากจริง ๆ (ปาดน้ำตาอีกที)

                เราได้เห็นบทบาทที่ชัดเจนของเมนเทอร์ผ่านการทำโชว์ Finale นี้มากขึ้น #MentorMoo ก็สมแก่ประสบการณ์ที่โชกโชน ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับแฟชั่นโชว์ได้อย่างเก่งกาจ ส่วน #MentorToni ก็เป็นครีเอทีฟที่ออกแบบการเดินได้อย่างน่าสนใจ และ #MentorSonia ที่อาจจะดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไร (ใครคิดแบบนี้ตีปากด่วน!) ก็เป็นผู้คอยดูภาพรวมของโชว์ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ The Face เลยค่ะที่เราได้เห็น 3 เมนเทอร์ประจำซีซั่นร่วมงานกันแบบจริง ๆ จัง ๆ แม้จะเล็กน้อยแต่ก็เป็นภาพที่สวยงามทีเดียว

 

---

เรียวตะ ผู้ทลายแว่นบดบังความรู้สึกของเมนเทอร์หมูได้หมดสิ้น

                ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ กับ ห้องดำในสัปดาห์นี้ กับการที่ #MentorSonia เลือกส่ง คิม เข้าไปต่อสู้ด้วยเหตุผลว่าเขาได้รับโอกาสให้ทำแคมเปญมากกว่าคัทจัง แต่ก็ยังไม่สามารถแสดงความสามารถออกมาได้ดีพอ ส่วนทางฝั่ง #MentorToni ในที่สุดก็เลือกจะเล่นเกมบ้าง ด้วยการส่ง เรียวตะ ผู้เข้าแข่งขันที่เมนเทอร์หมูเอ็นดู และมองเห็นในความตั้งใจมาตลอด เป็นกลยุทธ์ที่ร้ายกาจจนเมนเทอร์หมูอยากจะลองใจโดยการออกมาจากห้องดำเพื่อยื่นข้อเสนอให้เมนเทอร์โทนีเปลี่ยนใจ

                สุดท้ายเมนเทอร์โทนียืนยันคำเดิม และเมนเทอร์หมูก็เลือกที่จะไม่เล่นเกม เขาตัดสินใจคัดคิมออกจากรายการ เก็บเรียวตะเอาไว้ เราได้เห็นกำแพงความเย็นชาที่ซ่อนความรู้สึกภายใต้แว่นสุดชิคของเมนเทอร์หมูถูกทำลาย ด้วยฝีมือของ เรียวตะ ผู้แสนจะรั่วและล้น แต่ถึงกระนั้นซีนที่ทำให้เราน้ำตาซึมพร้อมรอยยิ้มคือ จังหวะที่ประตูเปิดออกและเมนเทอร์โทนีโผเข้าไปกอดเรียวตะด้วยความดีใจ คนอ่อนไหวอย่างเราถึงกับน้ำตาคลอเลยล่ะค่ะ (ปาดน้ำตาครั้งที่ 3)

---

 

สรุปนะคะ

                เดินทางมาถึงช่วงท้ายของซีซั่นแล้วกับ The Face Men Thailand Season 2 แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะไม่เห็นความแปลกใหม่มากนัก แต่ดูเหมือนว่าในซีซั่นนี้ทางรายการตั้งใจจะ Reboot และค่อย ๆ แสดงให้เราเห็นถึงคุณภาพมากขึ้น แม้จะแอบมีความคลิเช่แบบเก่า ๆ ติดมาบ้างแต่ก็พออภัยให้ได้ และในแคมเปญนี้ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วค่ะว่า ถ้ารายการลงทุนและตีโจทย์ให้แตก เสน่ห์ของผู้เข้าแข่งขันทั้งที่ยังอยู่ในเกมและหลุดออกจากเกมต่างก็มีพร้อม สามารถที่จะเป็นวัตถุดิบปลุกกระแสได้ให้รายการได้แน่นอน…XOXO

 

สุดท้ายรายการก็ได้ทิ้งระเบิดไว้ในตัวอย่างก่อนจากไปกับคำถามว่า…

ใครในทีม #MasterLukkade จะได้กลับเข้าเกมอีกครั้ง??

---

อ่าน The Face Lessons ตอนอื่น ๆ

Master Mentor คืออะไร? หรือจะเป็นหมากตัวใหม่รีแบรนด์ The Face

The Face Lesson EP.1-2 : เพราะชีวิตจริงคือการแข่งขัน แค่ “แฟร์” อย่างเดียวมันไม่พอ!

The Face Lessons EP.3: ทำดีแล้ว ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำดีกว่าเราไม่ได้

The Face Lessons EP.4: ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะข้ามขีดจำกัดได้ จงยอมรับและพัฒนา

The Face Lessons EP.5: เครื่องมือของความก้าวหน้าคือการเอาชนะความกลัว

---

ภาพจาก: Facebook Page The Face Thailand

ครึ่งทางกันแล้วค่ะคุณกับ The Face Men Thailand ตอนที่ 6 กับแคมเปญที่ 5 แคมเปญโฟโต้ชู้ตใต้น้ำ ที่เคยสร้างชื่อเรื่องความลุ้นระทึก, ความตื่นเต้น และความเสี่ยงตายใน The Face เวอร์ชั่นผู้หญิง มาลองดูกันค่ะว่าในเวอร์ชั่นผู้ชายแล้วมันจะออกมาเป็นอย่างไร ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่ The Face Lessons ตอนที่ 5 กับชื่อตอนว่า เครื่องมือของความก้าวหน้าคือการเอาชนะความกลัว

แอพิโสดนี้จะเป๊ะปัง เซอร์ไพร์ส สะเทือนใจ

หรือช็อคกันแค่ไหน ไปดูกันค่ะ!

---

ถ้าอยากไปต่อก็…แสดงตัวตนออกมาสิ!

                เริ่มต้น Master Class ในวันนี้แบบเล่นใหญ่เล่นโต เพราะคนแจกโจทย์ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นแม่ใหญ่ คุณเต้มาเองค่ะ กับโจทย์การกระโดดแทมโบลีนถ่ายภาพโฆษณาคู่รถยนต์ ที่ไม่ใช่แค่มาถ่ายเล่น ๆ ขำ ๆ ในสตูดิโอนะคะ เพราะพวกนางจัดเต็มโปรดักชั่นมาสเตอร์คลาสซะจนนึกว่ากำลังทำแคมเปญกันอยู่ ด้วยประกาศิตจากคุณเต้ว่า มาสเตอร์คลาสในครั้งนี้คือ การสอบมิดเทอม

                อย่างที่รู้กันนะคะว่าการสอบ ก็คือการวัดระดับความสามารถ ไม่ใช่แค่ในวัยเรียนหรอกค่ะ แต่การทดสอบนี้เกิดขึ้นทุกช่วงจังหวะของชีวิต เห็นได้ชัดหน่อยก็เป็นวัยทำงานที่การทดสอบหมายถึงความก้าวหน้าของชีวิต จะอยู่จะไป จะก้าวหน้าหรือย่ำอยู่กับที่มันก็คราวนี้ล่ะค่ะ แต่สิ่งที่ The Face Men Thailand ตอนนี้นำเสนออย่างชัดเจนเลยก็คือ ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จจริง ๆ ล่ะก็ แสดงตัวตนออกมา ใส่มันให้มาให้หมด แล้วก้าวข้ามกำแพงเก่า ๆ ของตัวเองไปให้ได้! Bring it out!!

 

---

ความกลัวที่หายไป…สปิริตที่เข้ามา

                จากการแข่งขันมาสเตอร์คลาส ผลที่ออกมาผู้ชนะคือ ป็อปปี้ จาก #TeamMoo ยอมรับจริง ๆ ค่ะว่าตอนนี้เขาคนนี้มาแรงมาก แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การชมเชยค่ะ เพราะการชนะครั้งนี้มันส่งผลอย่างร้ายกาจถึงแคมเปญ ด้วยแคมเปญการถ่ายภาพใต้น้ำที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดหินกันมาตั้งแต่ The Face Thailand Season 2 ทำให้การมีสิทธิคุมเกมในครั้งนี้มันส่งผลมากจริง ๆ

                เริ่มต้นจาก #TeamToni ที่ถูกเลือกให้ถ่ายแคมเปญเป็นทีมแรก กับการต้องเผชิญหน้ากับความไม่พร้อมของทีมงาน ทั้งการขาดการสื่อสารกับผู้ร่วมถ่ายภาพ หรือกระทั่งการเตรียมความพร้อมเรื่องแสงที่จะถ่ายใต้น้ำ ทำเอาเมนเทอร์โทนีถึงกับหัวเสีย เรื่องนี้มันเลยสอนให้เราทุกคนรู้ว่า ไม่ใช่ทุกครั้งหรอกนะคะที่เราจะได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่ถูกใจเราไปหมดทุกอย่าง การเรียนรู้และปรับตัวเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุดออกมาคือหน้าที่ของ Professional

                ต่อมาด้วย #TeamSonia คุณแม่ผู้กลับมาด้วยพลังงานเต็มเปี่ยม พร้อมกับความพยายามให้ลูกทีมคิดนอกกรอบ ใส่ไอเดียลงไปในการทำแคมเปญ ซึ่งคนที่ Shine ที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่นค่ะ เขาคือพ่อหนุ่ม ลูอิส เจ้าเก่ารายเดิมที่ในตอนนี้คงไม่ปฏิเสธแล้วว่าเขาคือหัวหอกคนสำคัญของทีมซอนย่า โดยสปิริตของลูอิสในตอนนี้คือการใช้ประสบการณ์ของตัวเอง เลือกจะถ่ายภาพเป็นคนแรก และแสดงให้สมาชิกในทีมเห็นว่ามันไม่ได้ยากเกินไปอย่างที่พวกเขาคิด นี่ล่ะค่ะคือคุณสมบัติของคนที่เป็นหัวหน้าคน

                สุดท้ายกับ #TeamMoo หลังจากที่โดนกระตุ้นอย่างหนักหน่วงไปในตอนที่แล้ว กลับมาคราวนี้เหล่าลูกหมูทั้ง 5 ก็เหมือนองค์ลง ทุกคนทุ่มเทกับแคมเปญชนิดที่ถวายหัวให้เมนเทอร์หมูเลยทีเดียว โดยเฉพาะ ฟิล์ม ที่แม้จะได้รับบาดเจ็บระหว่างการถ่ายทำ แต่ก็กัดฟันถ่ายต่อจนเอาชนะใจเมนเทอร์หมูไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันชวนให้เห็นเลยค่ะว่า ลูกหมูทั้ง 5 อยากจะเอาชนะใจ Daddy มากกว่าชนะแคมเปญเสียอีก

 

---

ช่วงเวลากำจัดจุดอ่อน…มาสเตอร์เมนเทอร์ออกโรง

                ย้อนกลับไปก่อนถ่ายแคมเปญ #MasterMentorLukkade ผู้เป็นเหมือนร่างทรงของชีคุณเต้ ก็ได้ออกมาประกาศข่าวช็อคว่า ในการทำแคมเปญครั้งนี้ ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ทุกทีม จะต้องส่งลูกทีมที่อ่อนที่สุดเข้าไปในห้องดำอย่างน้อย 1 คน ส่วนใครจะอยู่หรือจะไปนั้นมาสเตอร์ลูกเกดจะเป็นคนตัดสินเอง นั่นเลยเป็นผลให้ในวีคนี้เมนเทอร์ทุกคนจึงอยากจะเห็นความสามารถที่แท้จริงของลูกทีม

                สำหรับวีคนี้เราไม่ขอพูดถึงผู้ชนะของแคมเปญนะคะ เพราะ ทุกเมนเทอร์เหมือนจะเห็นพ้องต้องกันว่าถึงเวลาที่ควรจะส่งคนที่เป็นจุดอ่อนในทีมเข้าไปเรียกสติกันสักหน่อย โดย #MentorSonia เลือกส่ง กอล์ฟ เข้าไปอีกครั้ง, #MentorMoo มอบให้มาสเตอร์ลูกเกดเลือก พอล เข้าไป และ #MentorToni เลือกเล่นเกมเสี่ยงด้วยการส่งทั้ง โดม และ เบสท์ เข้าไปพร้อมกัน

                มาสเตอร์เมนเทอร์ลูกเกดไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังค่ะ ทั้ง 4 คน ถูกคัดออกจากรายการทั้งหมด ด้วยการใช้เหตุผลที่ค่อนข้างหนักแน่นและน่าเชื่อถือพอสมควร อธิบายรายคนว่าอะไรคือจุดอ่อน และตอนนี้เมื่อรายการผ่านมาครึ่งซีซั่นแล้วมันก็ถึงเวลาที่จะโฟกัสไปที่ตัวผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ในความคิดเห็นของเรา 4 คนที่ออกไปไม่ใช่ว่าจะไม่เก่งนะคะ

แน่นอนว่าพวกเขามีของ

เพียงแค่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาของพวกเขาเท่านั้นเอง สู้ต่อไปค่ะหนุ่ม ๆ

 

---

สรุปนะคะ

              ชัดเจนแล้วค่ะว่า The Face Men Thailand Season 2 กำลังกระชับรายการของตัวเองให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น กับอีกครึ่งทางที่เหลือ และตอนนี้สมาชิกของแต่ละทีมก็เหลือเพียงตัวเต็งของรายการ เราเชื่อว่าหลายคนก็พอจะเห็นกันแล้วนะคะว่า Final Walk ของแต่ละทีมคือใคร แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังไม่รู้สึกก็คือ ความแปลกใหม่ที่เป็นจุดพีคของรายการ แน่นอนค่ะว่ารายการยังมีความบันเทิงอยู่ แต่ส่วนใหญ่เป็นความบันเทิงที่เราเคยเห็นกันมาแล้วในซีซั่นก่อน ๆ มาจับตาดูกันต่อไปค่ะว่ารายการนี้จะงัดไม้เด็ดอะไรมาเล่นในครึ่งซีซั่นที่เหลือ…XOXO

---

อ่าน The Face Lessons ตอนอื่น ๆ

Master Mentor คืออะไร? หรือจะเป็นหมากตัวใหม่รีแบรนด์ The Face

The Face Lesson EP.1-2 : เพราะชีวิตจริงคือการแข่งขัน แค่ “แฟร์” อย่างเดียวมันไม่พอ!

The Face Lessons EP.3: ทำดีแล้ว ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำดีกว่าเราไม่ได้

The Face Lessons EP.4: ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะข้ามขีดจำกัดได้ จงยอมรับและพัฒนา

---

ภาพจาก: Facebook Page The Face Thailand

Copyright© Bsite.In